น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีนโยบายให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งกลุ่มผู้กู้ยืมกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) เป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายที่นายกรัฐมนตรีย้ำว่าต้องให้ความช่วยเหลือ
ล่าสุด กยศ. ได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเชิงรุก โดยการร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ในการเชิญผู้กู้ยืมที่ค้างชำระหนี้ ที่ถูกบอกเลิกสัญญา และกำลังจะถูกฟ้อง ประจำปี 2563 และประจำปี 2564 จำนวน 170,000 ราย เข้ามาไกล่เกลี่ยหนี้ก่อนฟ้อง ภายในงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ซึ่งปีนี้จะจัดขึ้นทั้งหมด 12 ครั้ง ในกรุงเทพฯ และภูมิภาค ซึ่งขณะนี้ได้จัดไปแล้ว 3 ครั้ง เหลือสัญจรอีก 9 ครั้งในภูมิภาค
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับการไกล่เกลี่ยหนี้ก่อนฟ้องคดีนี้เป็นกรณีการใช้กลไกของพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. 2562 เข้ามาช่วยเหลือเพื่อไม่ให้ลูกหนี้ถูกดำเนินคดีและเข้าสู่กระบวนการศาล โดยผู้เข้าร่วมจะได้ส่วนลดเบี้ยปรับ ได้รับโอกาสในการขยายระยะเวลาผ่อนชำระได้ถึงอายุ 65 ปี ขณะที่ผู้ค้ำประกันก็มีโอกาสได้รับการปลดภาระตามกฎหมายใหม่ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขคือ ร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่…) พ.ศ. …. โดยเมื่อกฎหมายมีผลบังคับแล้ว กยศ. จะสามารถปลดภาระผู้ค้ำประกันได้ หากผู้กู้มีการชำระเงินต้นมาแล้วร้อยละ 25 ของเงินต้นที่ค้างชำระ
ในการสัญจรจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ทั่วประเทศที่เหลืออีก 9 ครั้ง พร้อมกับกรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและกรมบังคับดคี กยศ. จะส่งหนังสือถึงผู้กู้ยืมในแต่ละจังหวัดหรือจังหวัดที่ใกล้เคียงสถานที่จัดงานให้เข้ารับการไกล่เกลี่ยหนี้ก่อนถูกฟ้องร้อง รัฐบาลจึงขอเชิญชวนลูกหนี้ กยศ. ที่อยู่ในเกณฑ์เข้าร่วม โดยหากไม่ได้รับหนังสือจาก กยศ. ให้เข้าร่วมก็สามารถวอร์คอินเข้าไปในงานโดยสามารถศึกษาข้อมูลและลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่เว็บไซต์ของ กยศ. www.studentloan.or.th