นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการยืนยันว่า ตรวจพบเชื้อ โรคอหิวาต์แอฟริกา ในสุกร (ASF) จากการเก็บตัวอย่างในจังหวัดนครปฐม และนำไปสู่การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 65 นั้น กรมปศุสัตว์ได้เร่งประชุมคณะทำงานด้านวิชาการ ในการป้องกัน ควบคุมและกำจัด โรค ASF ในสุกร ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งจะประกาศเขตโรคระบาด ASF ในประเทศไทยและมีการควบคุมการเคลื่อนย้าย ในรัศมี 5 กิโลเมตร
รอบจุดที่พบโรคทันที รวมทั้งรายงานไปยังองค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) ต่อไป โดยการดำเนินการต่างๆ จะคำนึงถึงผลกระทบในทุกมิติ อย่างรอบคอบ เพื่อลดความเสียหายและผลกระทบ ต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร และกระบวนการผลิตสุกร ให้น้อยที่สุด ทั้งนี้ขอความร่วมมือจากผู้บริโภค อย่าตื่นตระหนก เนื่องจากโรค ASF เกิดเฉพาะในสุกรเท่านั้น ไม่ก่อโรคในคนหรือสัตว์อื่นแน่นอน อธิบดีกรมปศุสัตว์ ยืนยันว่า เนื้อและอวัยวะสุกรที่จำหน่ายในไทย ยังมีความปลอดภัยและสามารถรับประทานได้ตามปกติ ขอให้มั่นใจได้ เพราะมีการเข้มงวดคัดกรองสุขภาพก่อนฆ่า (Ante-mortem) ไม่ให้มีสุกรที่ป่วยด้วยอาการ ASF เข้าสู่กระบวนการผลิต
โรค ASF เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งก่อโรคเฉพาะในสัตว์สกุลสุกร คือสุกรและสุกรป่า ถือเป็นโรคอุบัติใหม่ในประเทศไทย ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ตัวโรคก่อความรุนแรงมากในสุกร สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคม เนื่องจากมีอัตราป่วยในสุกร 100% อัตราตาย 30-100% ในลูกสุกรอัตราตายสูง 80-100% ภายใน 14 วัน ตัวเชื้อไวรัสมีความทนทานในสภาพแวดล้อมสูง ต้องใช้ระยะเวลาถึง 30 นาทีในการทำลายด้วยยาฆ่าเชื้อ สุกรสามารถติดเชื้อได้จากการสัมผัสสิ่งคัดหลั่ง จากสุกรป่วยหรือสิ่งปนเปื้อน การกินอาหารที่มีเชื้อปนเปื้อน และการโดนเห็บที่มีเชื้อกัด อาการของโรคสามารถพบได้ทุกกลุ่มทุกช่วงอายุสุกร มีการตายเฉียบพลัน มีไข้สูง ผิวหนังแดง มีจุดเลือดออก หรือรอยช้ำโดยเฉพาะหลังใบหู ท้อง ขาหลัง มีอาการทางระบบอื่น เช่น ทางเดินหายใจ ทางเดินอาหาร การแท้งในช่วงของการตั้งท้อง จนถึงปัจจุบันยังไม่มีประเทศใดที่สามารถพัฒนาวัคซีนในการป้องกันโรค และยารักษาที่จำเพาะได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญในการควบคุมโรคให้สงบได้โดยเร็ว ต้องอาศัยความร่วมมือจากเกษตรกรกับกรมปศุสัตว์ ในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 อย่างเคร่งครัด ในการรายงานกรมปศุสัตว์โดยเร็ว กรณีสงสัยโรค ASF เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมโรคได้อย่างทันท่วงที และควบคุมการเคลื่อนย้ายสุกรมีชีวิต เพื่อหยุดการระบาด
สำหรับผู้บริโภค ขอให้มั่นใจในการบริโภคเนื้อสุกรได้ตามปกติ โดยแนะนำว่า ควรเลือกซื้อเนื้อสุกรจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ มีสุขอนามัยการผลิตที่ดีและตรวจสอบย้อนกลับได้ เช่นสถานที่จำหน่ายที่ได้รับรอง “ปศุสัตว์ OK” รวมทั้งปรุงสุกทุกครั้งด้วยอุณหภูมิอย่างน้อย 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป ก่อนรับประทาน เพื่อหลีกเลี่ยงโรคต่างๆ หากเกษตรกรพบอาการต้องสงสัยโรค ASF ในสุกร ให้รีบแจ้งปศุสัตว์ในพื้นที่ทันที หรือที่เบอร์ 063-225-6888 หรือ Application: DLD 4.0 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง