กรมราชทัณฑ์ แจงปมจดหมายของ เพนกวิน – ทนายอานนท์

กรมราชทัณฑ์ ตั้งคณะกรรมการสอบปม จดหมายของ เพนกวิน – ทนายอานนท์ พร้อมแจงการย้ายตัว เพนกวิน ตอนกลางคืน เป็นไปอย่างถูกต้อง

3 มีนาคม 2564 นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษก กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงความคืบหน้าเกี่ยวกับการนำ จดหมาย ออกนอกเรือนจำของ นาย พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และ ทนายอานนท์ นำภา ว่าถูกส่งให้บุคคลภายนอกได้อย่างไร และสามารถโพสต์บนสื่อโซชียลได้อย่างไร รวมถึงกรณีการย้ายตัว เพนกวิน ไปที่สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานีในเวลากลางคืนถูกต้องหรือไม่

นายธวัชชัย เผยว่า ขณะนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาข้อสรุปในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดและถี่ถ้วน เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดในระหว่างที่นายพริษฐ์ และนายอานนท์ ถูกนำตัวขึ้นศาล แต่ขอยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการดำเนินการตรวจสอบความเรียบร้อยของผู้ต้องขังทุกครั้ง โดยเฉพาะการตรวจสอบสิ่งของต่างๆ เพื่อไม่ให้มีการลักลอบนำสิ่งของต้องห้ามเข้าและออกเรือนจำ ซึ่งในขณะที่ค้นตัวก่อนและเข้าเรือนจำในวันดังกล่าว ไม่พบเอกสารหรือจดหมายในตัวของผู้ต้องขังทั้งสองรายแต่อย่างใด

ส่วนการโพสต์ข้อความบนสื่อโซเชียลมีเดียของผู้ต้องขัง ที่ปรากฏสู่สาธารณะ กรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่า ในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ ผู้ต้องขังไม่สามารถใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือสื่อสารได้ โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ ที่แม้แต่เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์เองก็ไม่สามารถนำเข้าในเขตพื้นที่เรือนจำได้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ต้องขังทั้ง 2 ราย จะสามารถโพสต์ข้อความเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง

เบื้องต้นทราบว่าเป็นการฝากข้อความผ่านทนายความและผู้ที่ไว้ใจในการโพสต์จากข้างนอกเรือนจำ ทั้งนี้ เจ้าของเพจเฟซบุ๊กสามารถกำหนดสิทธิ์ผู้ดูแล หรือ แอดมิน ให้ใครก็ได้ ไม่จำเป็นต้องโพสต์ด้วยตัวเอง ซึ่งในกรณีดังกล่าว นายพริษฐ์ ได้เคยลงบันทึกข้อความไว้แล้วเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ว่าข้อความและถ้อยคำที่ตนเองสื่อสารออกไปเป็นการฝากบุคคลภายนอกโพสต์แทนตนเอง

ส่วนประเด็นการย้ายที่คุมขังของนายพริษฐ์ นายธวัชชัย เผยว่า เป็นการปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลอาญา ในความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2564 โดยให้กักขังเป็นเวลา 15 วัน นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน จึงถูกส่งตัวไปรับโทษกักขังยังสถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานีในวันเดียวกัน จากเดิมที่ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เนื่องจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไม่ใช่สถานที่กักขังตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 24 วรรคหนึ่ง จึงไม่อาจบังคับโทษกักขังตามคำพิพากษาของศาลได้

แต่หากนายพริษฐ์ ได้รับโทษกักขังครบตามคำพิพากษาของศาลแล้ว (จะครบกำหนด 15 วัน ตามคำพิพากษาของศาลในวันที่ 6 เมษายน 2564) สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานีก็จะต้องส่งตัวนายพริษฐ์ กลับมาคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครตามเดิม เพื่อรอการพิจารณาคดีอื่นที่ยังคงเหลืออยู่

ส่วนประเด็นข้อสงสัยที่ว่า เหตุใดจึงมีการย้ายตัวในเวลากลางคืนนั้น โฆษก กรมราชทัณฑ์ เผยว่า กรมราชทัณฑ์ เป็นหน่วยงานสุดท้ายของกระบวนการยุติธรรม และเป็นงานลักษณะพิเศษที่ต้องดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อได้รับหมายศาลมาเวลาใด เจ้าหน้าที่ต้องรีบดำเนินการในทันทีให้ถูกต้อง ตามระเบียบจึงดำเนินการส่งตัวไปที่สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานีในเวลากลางคืนหลังจากได้รับหมายศาล

ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของงานราชทัณฑ์ โดยขั้นตอนการดำเนินการทุกอย่าง จะถูกเก็บเป็นความลับจนกว่าจะมีการดำเนินการแล้วเสร็จ เพราะเป็นระเบียบปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์ในเรื่องของความปลอดภัยระหว่างขนย้ายผู้ต้องขัง ไม่สามารถแจ้งญาติหรือบุคคลภายนอกให้ทราบล่วงหน้าได้

ส่วนอาการล่าสุดของ เพนกวิน หลังจากอดอาหารเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ จากการตรวจร่างกายในช่วงเช้าวันนี้ (23 มีนาคม 2564) พบว่านายพริษฐ์ มีผื่นคันที่หน้าอกและหลัง และมีอาการอ่อนเพลียลงเล็กน้อย

แต่อย่างไรก็ตาม สภาพร่างกายทั่วไปยังไม่น่าเป็นห่วง และนายพริษฐ์ ยังคงปฏิเสธการรับประทานอาหารและการตรวจวัดระดับน้ำตาลปลายนิ้ว เนื่องจากวิตกกังวล ในเรื่องความปลอดภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่พยาบาลได้ให้คำแนะนำการรับประทานอาหารและจัดเตรียมผงเกลือแร่ นม น้ำหวาน และโอวัลตินให้แก่นายพริษฐ์ พร้อมทั้งเตรียมพร้อมตลอดเวลาหากเกิดความจำเป็นต้องรับการรักษาเร่งด่วน