คดีเงินทอนวัด ศาลอุทธรณ์ยืนจำคุก พระพรหมดิลก 8 เดือน – รอลงอาญา 1 ปี

ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนตามศาลชั้นตั้นจำคุก พระพรหมดิลก 8 เดือน รอลงอาญา 1 ปี คดีเงินทอนวัด

วันนี้ (2 มี.ค. 2564) ที่ศาลทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พระเอื้อน หาสธัมโม หรือ เจ้าคุณเอื้อน หรือ อดีต พระพรหมดิลก พร้อมทนายความ ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่ตกเป็นจำเลยฐานสนับสนุนให้กระทำผิดในลักษณะการยักย้ายถ่ายโอนเงินในคดีนำเงินโรงเรียนพระปริยติธรรม 5 ล้านบาท ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือ คดีเงินทอนวัด ตามความผิดตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 157 ฐานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ

ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำคุก 8 เดือน และ ปรับเป็นเงิน 8,000 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี

นายอรรณพ บุญสว่าง เปิดเผยว่า อดีต พระพรหมดิลก มีคดีเกี่ยวกับ เงินทอนวัด ทั้งหมดจำนวน 3 คดี โดยคดีแรกเป็นคดีที่ถูกกล่าวหาว่า ฟอกเงิน ซึ่งศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายกฟ้องไปเมื่อเดือนกันยายน 2563 และศาล ออกเอกสารรับรองสิ้นสุดคดีความไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564

ส่วนอีกคดีเป็นการฟ้องร้องในศาลแพ่ง ขณะนี้ทนายได้ส่งคำร้องถึงศาลแล้ว เนื่องจากคดีฟอกเงินนั้นคดีได้ถึงที่สุดแล้ว และศาลยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 1.6 ล้านบาท จึงทำให้ในชั้นอุทธรณ์ของศาลแพ่ง ยังไม่มีคำสั่งใดๆ ลงมา

ทั้งนี้ อดีต พระพรหมดิลก ได้อุทธรณ์ว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการสนับสนุนการกระทำผิด แต่ศาลอุทธรณ์ เห็นว่า จำเลยที่ 5 เป็นพระชั้นผู้ใหญ่สามารถใช้อำนาจในการตรวจสอบงบประมาณต่างๆ ได้ ศาลจึงไม่เชื่อว่า อดีต พระพรหมดิลก ไม่ทราบหรือไม่มีการตรวจสอบให้รอบคอบได้ จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

เบื้องต้น ทีมทนายความปรึกษากันแล้วว่า จะยื่นเรื่องขอสู้คดีในชั้นศาลฎีกา ต่อไป

สำหรับ คดีเงินทอนวัด เกิดขึ้นเมื่อปี 2560 เป็นคดีที่สะเทือนวงการพระพุทธศาสนาอย่างมาก เนื่องจาก มีผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นทั้งอดีตผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ และยังเชื่อมโยงไปถึงพระเถระชั้นผู้ใหญ่หลายรูป