อีกคดี คนหายกลายเป็นศพ ถูกฆ่าแล้วนำศพไปทิ้งอำพรางในไร่อ้อยค่ะ เคสนี้ มูลนิธิกระจกเงา เป็นผู้รับร้องเรียนและติดตามหาจนเจอ แม้จะเจอในสภาพไร้ลมหายใจ แต่อย่างน้อยครอบครัวก็ได้คำตอบที่ไม่ต้องรอเก้ออีกต่อไปแล้ว
สำหรับ คนหายกลายเป็นศพ เคสนี้ เป็นเรื่องราวของ สาวโรงงาน ชื่อ น.ส.มยุรี ยอดพะเนา หรือ น้องหลิว อายุขณะหาย 19 ปีค่ะ ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว น้องหลิว มาทำงานที่นิคมอุสาหกรรม 304 อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้ยังไม่ถึงหนึ่งเดือน อาศัยอยู่หอพัก ใกล้นิคมอุตสาหกรรม 304 วันที่ 5 พ.ค. 2555 น้องหลิว เดินทางไปห้างโลตัส สาขาคลองรั้ง ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี จอดรถมอเตอร์ไซค์ทิ้งไว้ที่นั่น และขาดการติดต่อไป
เกือบเดือนที่ น้องหลิว หายไปไม่ติดต่อกับที่บ้าน ครอบครัวได้เดินทางมาเก็บข้าวของเครื่องใช้ของน้องหลิวภายในหอพัก ใกล้นิคมอุตสาหกรรม 304 โดยภายในห้องพักยังมีเสื้อผ้าของใช้ทั่วไปในสภาพปกติ ไม่มีร่องรอยของการรื้อค้น ซึ่งครอบครัวได้สอบถามกับเพื่อนๆของน้องหลิว ทั้งจากเพื่อนสนิทและเพื่อนที่ทำงานด้วยกันที่นิคมอุตสาหกรรม 304 แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าน้องหลิวหายไปไหน แต่ต่อมามีผู้ปล่อยข่าวลือว่า น้องหลิวน่าจะไปทำงานที่ต่างประเทศ โดยมีเพื่อนคนหนึ่งได้รับข้อความจากน้องหลิว ทำนองว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง จะไปทำงานต่างประเทศ” ในตอนแรกครอบครัวก็ยังไม่ได้เอะใจอะไรมากนัก เพราะด้วยอุปนิสัยของน้องหลิวที่เป็นคนช่วยเหลือตัวเอง เอาตัวรอดด้วยตัวเองมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ครอบครัวจึงคิดว่า น้องหลิวอาจไปหางานทำที่อื่น หรือตัดสินใจกลับไปคบหาคืนดีกับชายต่างวัยที่มาติดพัน ซึ่งก่อนหน้าน้องหลิวจะหายตัวไป ได้มีปัญหาและพยายามจะเลิกรากัน ซึ่งครอบครัวก็หวังว่าน้องหลิวน่าจะติดต่อกลับมาเมื่อหน้าที่การงานหรือชีวิตลงตัว ด้วยเพราะครอบครัวก็เป็นชาวบ้าน หาเข้ากินค่ำ เลี้ยงวัวเลี้ยงแพะ ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีมากนัก
ผ่านมากว่า 6 เดือน ที่น้องหลิวหายตัวไปอย่างปริศนา ยังไม่มีการติดต่อกลับมาหาครอบครัว ช่วงเดือน พ.ย. 2555 ครอบครัวจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ
กระทั่งปี 2562 ทางครอบครัวเห็นว่าน้องหลิวขาดการติดต่อไปนานแล้ว จึงพยายามอีกครั้งในการติดตามหาน้องหลิว แต่พ่อกับแม่ก็แก่แล้วและยังไม่รู้เรื่องเทคโนโลยี จึงมีเหลนช่วยประสานแจ้งคนหายมาที่ มูลนิธิกระจกเงา ให้ช่วยติดตาม โดย มูลนิธิกระจกเงา ก็ได้ประสานตรวจสอบข้อมูลความเคลื่อนไหวของคนหายในระบบราชการเป็นอันดับแรก จากการตรวจสอบข้อมูล ไม่พบว่ามีการมาทำบัตรประชาชนใหม่ ไม่พบความเคลื่อนไหวในระบบบัตรทอง/ประกันสังคม และไม่พบการเดินทางออกนอกประเทศ นั่นยิ่งทำให้น่าสงสัย ว่าน้องหลิวหายไปไหน จะยังมีชีวิตอยู่หรือไร้ลมหายใจกลายเป็นศพนิรนามไปแล้ว ซึ่งในระยะหลัง มูลนิธิกระจกเงา ก็พบคดี คนหายกลายเป็นศพ ถูกฆาตกรรมเสียชีวิต และเป็นศพนิรนามหลายศพ จึงมีการตั้งประเด็นเรื่องน้องหลิวอาจเสียชีวิตแล้วเป็นศพนิรนามนอกพื้นที่ที่หายไป
ทีมงานมูลนิธิกระจกเงา จึงลงพื้นที่ประสานงานตามโรงพยาบาลต่างๆในพื้นที่ จังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว 4 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อจุดที่หายไป กระทั่งพบข้อมูลศพนิรนามเพศหญิง ต้องสงสัย 3 ศพ ซึ่งทั้งหมดถูกฆาตกรรมเสียชีวิตและนำศพไปทิ้งอำพราง ต่อมาจึงได้มีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ของแม่น้องหลิว ตรวจเทียบกับดีเอ็นเอศพนิรนาม ทั้ง 3 ศพ ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งได้เก็บตัวอย่างกระดูกของศพไว้ เมื่อนำมาเทียบดีเอ็นเอกัน พบว่า ศพหญิงนิรนามที่ถูกพบเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2555 บริเวณไร่อ้อย หมู่ 13 ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ตรงกับดีเอ็นเอของแม่น้องหลิว
จากการตรวจสอบข้อมูลตั้งแต่ช่วงที่พบศพ ทราบว่าศพมีสภาพเน่าอืด ใบหน้าเปลี่ยนรูป ไม่มีเอกสารติดตัว ถูกนำส่งไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พบบาดแผลจากการถูกยิงด้วยอาวุธปืนหลายจุด จากนั้นถูกส่งไปฝังที่สุสานแห่งหนึ่ง ในจังหวัดชลบุรี นานกว่า 8 ปีกลายเป็นศพนิรนามไม่ทราบชื่อ กระทั่งเกิดการติดตามจนทราบว่าศพดังกล่าวเป็นน้องหลิวที่หายตัวไป
กว่า 8 ปี ที่น้องหลิวหายตัวปริศนา ในวันนี้ได้ความชัดเจนแล้วว่า น้องหลิว ถูกฆาตกรรมอำพรางตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งครอบครัวก็อยากได้รับความเป็นธรรมให้กับน้องหลิว มูลนิธิกระจกเงา บอกกับจันว่า ในส่วนของการตามหาคนหาย ในวันนี้ถือว่าเสร็จสิ้นสำหรับเคสน้องหลิวหายปริศนา ที่ครอบครัวไม่ต้องรอคอยเก้ออีกแล้ว แต่ส่วนทางคดีความต่างๆ ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ และดำเนินไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งครอบครัวน้องหลิวก็ได้แจ้งความกับ สภ.วัฒนานคร ท้องที่ที่พบศพน้องหลิวแล้ว และครอบครัวได้ประสานกับทางตำรวจเพื่อขอทำเรื่องรับศพน้องหลิวกลับบ้าน มาบำเพ็ญกุศลให้ตามศาสนาต่อไป
