จริงหรือ คุณตา ป่วยอัมพาต บำบัดด้วยการ ฝังทราย แล้วดีขึ้น

ตะลึง คุณตา วัย 82 ป่วยอัมพาต บำบัดด้วยการ ฝังทราย แล้วดีขึ้น จริงหรือ

ตะลึง “ทรายบำบัด” ทำผู้ป่วยอัมพาตเริ่มเคลื่อนไหวร่างกายได้จริงหรือ ?

ที่ชายหาดชลาทัศน์ แหลมสมิหลา อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ตอนนี้ชายหาดเริ่มกลับมาสะอาดสวนงามเหมือนเดิม หลังผ่านพ้นช่วงฤดูมรสุมโดยเทศบาลนครสงขลา ได้นำรถจักรมาทำความสะอาดบริเวณชายหาดทุกวัน

โดยวานนี้ (27 ม.ค. 64) ครอบครัวของ นายวีระพงศ์ พงศ์อักษร ได้นำคุณพ่อคือนายวิทุม พงศ์อักษร อายุ 82 ปี ที่ป่วยเป็นอัมพาต มาทำการฝังทราย บริเวณชายหาดชลาทัศน์ เพื่อฟื้นฟูสรรถภาพของร่างกายให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นวิธีการรักษาที่มีมานาน

นายวีระพงศ์ เล่าว่า นำคุณพ่อที่ป่วยอัมพาตเดินไม่ได้มาฝังทรายเป็นวันที่ 3 แล้ว ซึ่งเท่าที่สังเกตคุณพ่อ อารมณ์ดีขึ้น ความจำก็เริ่มกระเตื้องขึ้นมาบ้าง อาการที่เดินไม่ได้ก็เริ่มขยับขาเดินได้ 2-3 ก้าว หลังจากนี้ก็จะนำมาฝังทรายเรื่อยๆ

สำหรับการฝังทราย หรือ “ทรายบำบัด” มีหลายๆ แห่งที่นำวิธีนี้มารรักษาโรคผู้สูงอายุ เช่นเทศบาลเมืองเขารูปช้าง ซึ่งนำมาเป็นหนึ่งในหลักสูตรโรงเรียนผู้สูงอายุ เทศบาลเมืองเขารูปช้าง โดยมีข้อมูลว่า จะช่วยปรับสมดุลร่างกาย ทำให้โลหิตไหลเวียน ช่วยสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์ที่ถูกขับออก และยังช่วยให้ผ่อนคลาย ผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ปวดข้อ ข้ออักเสบ หอบหืด เครียด นอนไม่หลับ สามารถฝังทรายบำบัดเพื่อช่วยบรรเทาอาการได้

นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่ป่วยเป็นโรค อาทิ ความดัน เบาหวาน หรือโรคที่ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต กลายเป็นผู้ป่วยนอนติดเตียง

ซึ่งการฝังทรายต้องขุดทรายเท่าตัวผู้ฝัง ลึกพอประมาณ และกลบให้มิดตั้งแต่บริเวณใต้ทรวงอกลงไปให้ปลายเท้าหันไปทางทะเล ใช้เวลาฝังทรายประมาณ 30 นาที

อย่างไรก็ตามวิธีเป็นวิธีที่ยังไม่มีรายงานอย่างแน่ชัดว่า “ได้ผลจริงหรือไม่” ต้องตรวจสอบข้อมูล และให้แพทย์ผู้รักษาอาการยืนยังอีกครั้ง