
ลอดโบสถ์โบราณ อายุนับร้อยปี เชื่อเป็นประตูกาลเวลา ให้ตั้งจิตอธิษฐานขอพร ก่อนก้าวข้ามประตูไปไหว้พระพุทธรูปด้านใน จะสมหวังดั่งปรารถนา แต่มีข้อแม้ให้ขอพระแต่สิ่งที่ดีอยู่ในศีลธรรมอันดี บ้างขอให้หายเจ็บป่วย ขอบุตร ซื้อขายที่ดิน ด้านเจ้าอาวาสวัด ถือว่าความเชื่อนี้เป็นเรื่องความเชื่อส่วนบุคคล เพียงแต่เห็นว่า อดีตพื้นที่ตรงนี้ถูกปล่อยรกร้าง จึงได้มาบูรณะให้ชาวบ้านมากราบไหว้โบสถ์โบราณ


ที่วัดเลขธรรมกิตติ์ หมู่ 14 ตำบลบางอ้อ อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ซึ่งเป็นวัดโบราณที่มีอายุมากกว่า 100 ปี มีร่องรอยของโบสถ์โบราณ และประตูทางเข้าโบสถ์ที่ถูกปกคลุมด้วยต้นโพธิ์ขนาดเล็ก 4 ต้น ที่มีอายุนับร้อยปี คลุมประตูกำแพงทางเข้าโบสถ์อย่างสวยงาม ด้านในได้สร้าง ศาลาประดิษฐานพระพุทธรูปปางป่าเลไลย์ ให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมได้กราบไหว้ขอพร โดยพระประธานองค์เดิมได้ถูกอันเชิญไปประดิษฐานที่โบสถ์หลังใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2413 เนื่องจากพื้นที่โบสถ์หลังเดิมอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทำให้มีน้ำท่วม ที่ผ่านมาพื้นที่นี้ได้ถูกปล่อยทิ้งร้าง พระครูปลัดไพรัตน์ ปะภากโร เจ้าอาวาสวัดเลขธรรมกิตติ์องค์ปัจจุบัน ได้เห็นว่าพื้นที่ตรงนี้มีคุณค่า จึงได้เข้ามาบูรณะเมื่อประมาณปี 2560 พร้อมนำพระพุทธรูปมาให้ชาวบ้านได้กราบไหว้ขอพร จนกระทั่งเป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่และบุคคลภายในนอก



พระครูปลัดไพรัตน์ ปะภากโร เจ้าอาวาสวัดเลขธรรมกิตติ์ กล่าวว่า โบสถ์หลังนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี ร.ศ.127 หรือปีพ.ศ.2413 เดิมเป็นโบสถ์เก่าสำหรับทำสังฆกรรมของสงฆ์ในช่วงปลายกรุงศรีอยุธยา เมื่อนับมาจนถึงปัจจุบันผ่านมาถึง 151 ปี ในอดีตพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ น้ำท่วม จึงได้ไปสร้างโบสถ์หลังใหม่ในปี พ.ศ.2506 แต่โบสถ์เก่าหลังนี้ก็ยังมีชาวบ้านมากราบไหว้ ลอดประตูกาลเวลา ที่ชาวบ้านเชื่ออย่างนั้น บางคนที่ได้ขอพรและลอดประตูก็สมหวัง โชคดี อย่างเช่นให้หายเจ็บป่วย ถือความเป็นความเชื่อส่วนบุคคล

โบสถ์หลังนี้ไม่ทราบแน่ชัดว่าเจ้าอาวาสองค์ไหนเป็นคนสร้าง เท่าที่รู้คือหลวงปู่เผื่อน ท่านได้มาอยู่ที่วัดแหล่งนี้ตั้งแต่ปี 2459 หลังจากที่หลวงปู่เผื่อนได้มรณะภาพไป พื้นที่โบสถ์ตรงนี้ก็ถูกปล่อยทิ้งร้าง จนกระทั่ง 4-5 ปีก่อน เจ้าอาวาสฯเห็นว่าพื้นที่นี้มีคุณค่า และไม่มีใครรู้ว่าพื้นที่ตรงนี้มีโบสถ์เก่า จึงได้ทำการบูรณะให้ดีขึ้น จากนั้นก็มีญาติโยมเข้ามากราบไหว้ถ่ายรูป มีรายการทีวีมาถ่ายทำ จนกลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป

โดยพระพุทธรูปองค์ประธานในโบสถ์หลังนี้ ได้ถูกอัญเชิญไปไว้ในโบสถ์หลังใหม่ และได้นำพระพุทธรูปปางป่าเลไลย์มาประดิษฐานแทน