ชาวบ้าน หอบลูกหลาน หนียาฆ่าแมลง สัตว์ในหมู่บ้าน ตายนับสิบ ที่บุรีรัมย์

(24 ก.พ. 65) ชาวบ้านสำโรง หมู่ 3 ต.ท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลังมีนายทุนมาเช่าที่ดินปลูกแตงโม ติดกับหมู่บ้าน จำนวน 32 ไร่ โดยละอองยาฆ่าแมลงของเจ้าของไร่ ได้ปลิวมายังบ้านเรือนของชาวบ้าน มีสัตว์เลี้ยงตายหลายสิบตัว

ผู้สื่อข่าว อีจัน ได้สอบถาม นางสุชาวดี (ชาวบ้าน) เล่าว่า

ตั้งแต่มีไร่แตงโมมาอยู่ติดบ้าน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะละอองย่าฆ่าแมลง ปลิวมายังบ้านเรือน วัวที่ท้องก็แท้งลูกโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงจำเป็นต้องซื้อผ้าใบมาบังฟางอัดก้อน และแปลงหญ้าที่ปลูกไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ ละอองยาฆ่าแมลง มาโดน อีกทั้งยังมีสุนัขในหมู่บ้าน ตายวันเดียว 12 ตัว

ตนแจ้งปัญหาให้เจ้าของไร่ทราบแล้ว ได้คำตอบว่า ทุกๆ 4 วัน ถ้าได้ยินเสียงเครื่องพ่นยาดัง ให้หาแนวทางป้องกันเอาเอง เมื่อเครื่องพ่นยาดัง ตนจึงต้องจูงวัว ออกจากบ้าน ให้ห่างจากรัศมี ยาฆ่าแมลง เสมอ

นางสมควร (ชาวบ้าน) เล่าว่า

ตนเลี้ยงหลาน วัย 9 เดือน มีโรคประจำตัว ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเครื่องพ่นยา ตนต้องหอบหลานวิ่งหนีออกจากบ้านให้พ่นรัศมีที่ ละอองยาฆ่าแมลงปลิว เมื่อกลับมาต้องมาคอยล้างทำความสะอาดถ้วยชาม เพราะมีคราบน้ำมันจาก ยาฆ่าแมลง เกาะถ้วยชามทุกซอกทุกมุม

ส่วนสุนัขที่ตาย เจ้าของไร่บอกว่า จะชดใช้ให้ตัวละ 500 บาท แต่ตนคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้เกรงว่าคนอาจจะตายเหมือนสุนัขก็เป็นได้

นางแสงเดือน เจ้าของไร่แตงโม กล่าวว่า ตนลงทุนไปหลายแสนบาท การปลูกแตงโม จำเป็นต้องพ่น ยาฆ่าแมลง ถ้าไม่พ่นแตงโมก็จะเสียหาย โดยจะพ่น ยาฆ่าแมลง ทุก 4 วัน จนกว่าจะเก็บผลผลิต คือ 60 วัน ของอายุแตงโม หรือต้องพ่นยาทั้งหมดประมาณ 15 ครั้ง

ที่ผ่านมาตนเคยบอกชาวบ้าน แล้วถึงความจำเป็นที่ต้องพ่นยา แต่ตอนนี้ต้องรอถึง 10 มี.ค. 65 เพื่อให้แตงโมแก่จนเก็บผลผลิตก่อน จะได้ไม่ให้เกิดความเสียหาย

หากมีความคืบหน้าอย่างไร อีจัน จะมารายงานให้ทราบโดยเร็ว