ชาวมุสลิม ร่วมละหมาด วันตรุษอีฎิ้ลฟิตริ หลังถือศีลอด 1 เดือนเต็ม

พี่น้อง ชาวมุสลิม ร่วมละหมาด วันตรุษอีฎิ้ลฟิตริ หลังจากถือศีลอดมา 1 เดือนเต็ม

ภายหลังจากสิ้นสุด เดือนรอมฎอน หรือ ถือศีลอด ของชาวมุสลิม ซึ่งตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ถือเป็นเดือนแห่งความประเสริฐที่ทุกคนต้อง ถือศีลอด เพื่อแสดงออกถึงความศรัทธา ซื่อสัตย์ มุ่งหวังความใกล้ชิดกับองค์อัลเลาะห์ และเป็นการย้ำเตือนให้ชาวมุสลิมระลึกถึงความลำบากของบุคคลที่ด้อยโอกาสกว่า

นอกจากนี้ การถือศีลอด ยังเป็นการฝึกความข่มใจตนเอง ทั้งเป็นการชำระร่างกายและจิตวิญญาณ

และเมื่อสิ้นสุดเดือนรอมฎอน ก่อนเข้าสู่วัน ฮารีรายออีฎิ้ลฟิตริ ตามที่ได้ประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ เพื่อกำหนดวันที่ 1 ของเดือนเซาวาล (วันอีฎิ้ลฟิตริ) ฮิจเราะห์ศักราช 1443 ในวันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2565 เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้านั้น ปรากฏว่ามีผู้เห็นดวงจันทร์ จึงประกาศว่าวันที่ 1 ของเดือนเซาวาล (วันอีฎิ้ลฟิตริ) ฮิจเราะห์ศักราช 1443 ตรงกับวันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ.2565

สำหรับบรรยากาศในวันตรุษอีฎิ้ลฟิตริ ในช่วงเช้าของวันนี้ ( 2 พฤษภาคม 2565) ทางเทศบาลเมืองนราธิวาส โดยนายไพซอล อาแว นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส ได้ร่วมกับกลุ่มอิสลามนราฯ จัดสถานที่บริเวณสนามกีฬาเทศบาลเมืองนราธิวาส ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส ให้มีการประกอบพิธีละหมาดอีฎิ้ลฟิตริ ประจำปีฮิจเราะห์ศักราช 1443 โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 07.30 น.

ทั้งนี้ได้เชิญอิหม่ามเชครอมี จากประเทศอียิปต์ เป็นผู้นำละหมาด ท่ามกลางชาวมุสลิมที่เดินทางมาพร้อมครอบครัวด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันสดใส เข้าร่วมพิธีละหมาดครั้งนี้อย่างคับคั่ง ประมาณกว่า 3,000 คน

ซึ่งหลังการละหมาด ผศ.มัสลัน มาหะมะ จากมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ได้มีการคุฏบะห์หรือบรรยายธรรมในหัวข้อ “บทบาทผู้นำต่อการพัฒนาสังคม” และเมื่อเสร็จสิ้นการละหมาด ทุกคนได้มีการสลามทักทายและให้อภัยซึ่งกันและกัน

อย่างไรก็ตาม ทางเทศบาลเมืองนราธิวาส ได้ขอความร่วมมือให้ผู้เข้าร่วมละหมาดทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด อย่างเคร่งครัด ทั้งสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้างาน เว้นระยะห่าง และนำผ้าละหมาดของตนเองมาด้วย

นอกจากนี้ตามมัสยิดต่างๆ ทั่วทั้ง 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส ชาวไทยมุสลิมเข้าร่วมพิธีละหมาดรับวันตรุษอีฎิ้ลฟิตริอย่างเนืองแน่นเช่นกัน

คลิปอีจันแนะนำ
เปิด 26 บาดแผลบนร่างแตงโม สู่การสรุปสาเหตุการตาย