(23 มิ.ย.64) ที่ว่าการอำเภอทุ่งตะโก จ.ชุมพร นายสมพร ปัจฉิมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เผยว่า ในช่วงเดือน มิ.ย. เป็นต้นไป เป็นช่วงที่ทุเรียนหมอนทองในภาคใต้ เริ่มออกสู่ตลาด โดยเฉพาะใน จ.ชุมพร เป็นพื้นที่ปลูกทุเรียนหมอนทองมากที่สุดในภาคใต้ และมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจาก จ.จันทบุรี
โดย นายสมพร ปัจฉิมเพชร ได้รับคำร้องเรียน จากผู้บริโภค และผู้ค้าส่งทุเรียนว่า ได้มีการลักลอบนำทุเรียนด้อยคุณภาพ หรือ ทุเรียนอ่อน ออกสู่ท้องตลาดทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของทุเรียนหมอนทองใน จ.ชุมพร ส่งผลให้ราคาทุเรียนลดลงอย่างรวดเร็วจาก 180 บาท เหลือไม่ถึง 100 บาท ทำให้ขาดความเชื่อถือจากต่างประเทศ แต่กลุ่มแก๊งที่ค้าขายทุเรียนอ่อน ได้ผลประโยชน์ ไม่คำนึง ถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม
จังหวัดชุมพร จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานและชุดปฏิบัติการป้องกันแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ ออกสู่ตลาด อีกทั้งได้ตั้งชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจออกตรวจสอบ ปราบปรามแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง โดยมีนายทวีป ไทยสวี ป้องกัน จ.ชุมพร นำคณะชุดปฏิบัติการฯ เข้าทำการตรวจสอบในพื้นที่ อ.ทุ่งตะโก ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 22 มิย.64 จนได้เบาะแสว่า มีการนำทุเรียนอ่อนออกมาจำหน่ายทที่แผงขายทุเรียนริมถนนสายเอเซีย 41 และล้งรับซื้อทุเรียนเพื่อการส่งออกต่างประเทศ
ชุดปฏิบัติการฯ และนายสมพร ปัจฉิมเพชร รอง ผวจ.ชุมพร จึงได้ปลอมตัวเป็นชาวบ้าน ด้วยการแต่งตัว ด้วยผ้าขาวม้าคาดเอวใส่เสื้อผ้าแบบชาวบ้าน เดินทางด้วยรถยนต์ไม่ติดตราราชการ ไปยังพื้นที่ ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เข้าไปยัง แผงขายทุเรียนป้านึง ปูปลา พบกับนางคำนึง อายุ 66 ปี กำลังขายทุเรียนจำนวนมาก ตรงตามที่สายลับแจ้ง จึงทำทีเป็นผู้ซื้อเข้าไปสอบถามรายละเอียด
นางคำนึง บอกกับนายสมพรที่ปลอมตัวไป ว่า ทุเรียนทั้งหมดที่นำมาตั้งขายในแผงเป็นทุเรียนหมอนทองที่แก่จัดพร้อมรับประทานได้แล้ว ขายในราคากิโลกรัมละ 70 บาท นายสมพรจึงทำทีตกลงซื้อ หลังจากนั้น จนท.ทั้งหมดจึงแสดงตัวเป็น เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามการค้าทุเรียนอ่อน เข้าทำการตรวจสอบทุเรียนหมอนทองในแผง จากการตรวจสอบพบว่า มีทุเรียนอ่อน จำนวน 77 ลูก น้ำหนัก 222 กิโลกรัม จึงทำการตรวจยึด และผ่าทุเรียนเหล่านั้น ก็พบว่า เนื้อทุเรียนยังขาว ไม่มีกลิ่นหอมของทุเรียนแก่ แต่อย่างใด แสดงให้เห็นว่า เป็นลักษณะของทุเรียนอ่อน จึงได้ใช้เครื่องมือของสำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร ทำการตรวจวัดปริมาณแป้งในเนื้อทุเรียนพบว่ามีปริมาณเพียง 17-18 % เท่านั้น ทั้งที่มาตรฐานของปริมาณแป้ง จะต้องมี ถึง 32 % จึงถือเป็นทุเรียนแก่ พร้อมสุกและรับประทานได้
หลังตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้จับกุม นางคำนึง แจ้งข้อหา พยายามขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพคุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ ตาม กฎหมาย อาญา มาตรา 271และมาตรา 80 และข้อหาเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ฯลฯ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค มาตรา 47 ทำเอานางคำนึงถึงกับเขาอ่อนให้การรับสารภาพ