ช่วยยายด้วย! บ้านถูกพายุงวงช้างพัดพังทั้งหลัง

วอนสังคมช่วยเหลือ คุณยายวัย 74 ปี บ้านพังทั้งหลัง จากผลพวงพายุงวงช้างพัดถล่มกว่า 1 เดือน ต้องอยู่ในบ้านที่ปัจจุบันไม่มีฝาผนังและหลังคารั่ว เพราะไม่มีเงินซ่อมบ้านใหม่ พื้นที่ ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว

เป็นเวลากว่า 1 เดือนเศษแล้ว ที่คุณยายวัย 74 ปีคนนี้ ต้องอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ในสภาพบ้านที่ไม่มีฝาผนังและหลังคารั่ว เพราะใช้สังกะสีเก่าและหลังคาที่หลงเหลืออยู่มาตีมุงใหม่ หลังจากเกิดเหตุพายุงวงช้างพัดถล่มบ้านหายไปทั้งหลัง และกำแพงบ้านพังถล่มลงไปทั้งแถบ จนเกือบทับร่างคุณยายที่นั่งหลบฝนอยู่ภายในบ้าน ปัจจุบันได้แต่นั่งมองดูซากปรักหักพังของอิฐบล็อกข้างบ้าน ห้องน้ำที่ยังเปิดเปิงไม่มีหลังคา และจุดที่พอจะหลบฝนได้บ้างก็คงเป็นแค่มุมด้านหน้าบ้านที่หลงเหลืออยู่ แม้จะได้รับความช่วยเหลือบางส่วนจากหน่วยงานในท้องถิ่น แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรกับบ้านได้มากกว่านี้ เพราะคุณยายมีรายได้จากสวนมะขามและพืชผลการเกษตรเพียงเล็กน้อย ปีละประมาณ 10,000 บาทเศษ ทุกวันนี้ใช้เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนละ 800 บาท เพื่อเลี้ยงชีพไปวัน ๆ โดยมีลูกชาย 1 คน คอยดูแล จึงวิงวอนขอให้จิตอาสาหรือผู้ใจบุญช่วยเป็นสะพานบุญช่วยซ่อมบ้านให้ด้วย

โดยเมื่อวานนี้(1 ก.ย. 64) ทีมข่าวอีจันเดินทางลงพื้นที่ บริเวณบ้านเลขที่ 50 หมู่ที่ 10 บ้านใหม่พัฒนา ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว พบกับ นางมัน ผลชัย หรือคุณยายมัน อายุ 74 ปี เพื่อเยี่ยมและสอบถามเรื่องราว เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว พบเป็นบ้านชั้นเดียว ตั้งอยู่ใกล้กับสวนการเกษตรของชาวสวนและไร่มันสำปะหลัง ห่างจากพื้นที่เขาตะกรุบและเขตป่ารอยต่อป่า 5 จังหวัดภาคตะวันออกและพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนเพียงไม่กี่กิโลเมตร ซึ่งภาพที่เห็นพบว่าบ้านของคุณยายอยู่ในสภาพหลังคามุงด้วยสังกะสีเก่า มีรอยรั่วเต็มไปหมด ส่วนผนังบ้านที่เคยก่อด้วยอิฐบล็อกที่ไม่ได้ฉาบ ไม่มีความแข็งแรงนัก ด้านหนึ่งพังถล่มลงมาภายในบ้าน ต้องขนออกไปกองไว้ข้างๆบ้าน ภาพรวมคล้ายบ้านใกล้จะพังได้ในเร็ววันนี้ หากมีลมพายุพัดมาอีกครั้ง

คุณยายมัน เล่าว่า เมื่อช่วงที่เกิดพายุพัด เวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ตรงกับวันเข้าพรรษา ตอนนั้นกำลังจุดธูปเทียนเพื่อไหว้พระ ก็ได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงเครื่องบินและก็มีเสียงดังขึ้น พบว่าพักเดียว หลังคาบ้านทั้งหลังถูกลมพายุพัดปลิวไปทั้งแผ่น ผนังกำแพงบ้านที่ก่อด้วยอิฐบล็อกพังล้มลงมาเกือบทับตัวเอง ตกใจจึงก้มหมอบอยู่ที่พื้นหน้าโต๊ะหมู่บูชามุมหนึ่งของบ้าน ร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่มีใครได้ยิน หลังลมพายุผ่านไปจึงจับที่ศีรษะ พบว่ามีเลือดไหลลงมา สักพักก็มีหลานที่เป็นเพื่อนบ้านได้วิ่งเข้ามาช่วยเหลือ พาตัวออกไปทำแผลและพาไปอยู่บ้านญาติ

เบื้องต้นทาง อบต.พระเพลิง ได้เข้ามาสำรวจความเสียหาย พบว่า หลังคาบ้านปลิวไปทั้งหลัง กำแพงฝาบ้านล้มทั้งแถบ ก็ได้ช่วยเหลือเป็นเงิน 7,000 บาท นำมาซ่อมแซมบ้าน ค่าแรงและซื้อสังกะสีเก่ามามุง ส่วนหนึ่งก็เอาไปจ่ายค่าต่อไฟฟ้าที่เพิ่งเข้ามาที่บ้าน จึงทำเท่าที่ทำได้ ก็ได้แค่ปิดคลุมกันแดดได้ แต่ถ้าฝนตกก็ยังมีน้ำฝนรั่วลงมาอยู่

คุณยายมัน ยังเล่าด้วยว่า พักอาศัยอยู่ที่ดินผืนนี้กับลูกชายเพียง 2 คน สามีเสียชีวิตไปนานแล้ว โดยลูกชายมีอาชีพทำสวนทำไร่ในแปลงของตัวเองและรับจ้าง พอมีรายได้ 1-2 หมื่นต่อปี ที่ไว้เป็นเงินใช้จ่ายในครอบครัว ตอนนี้บ้านเรือนพังหมด จึงอยากได้รับการช่วยเหลือซ่อมบ้านให้ แค่สามารถพักอาศัยได้ กันลมกันฝน ลำพังยายเองตอนนี้ไม่รู้จะหาเงินจากไหนมาซ่อมบ้าน จึงอยู่กันแบบนี้ได้เดือนกว่าแล้ว

“เขาโทรมาถามยายว่า ยายซ่อมบ้านหรือยัง โอ้ยยายจะเอาอะไรมาซ่อม ต้องซ่อมไปเรื่อยๆ จะเอาอะไรมา ไม่มีตังค์ ยายก็ไม่มี อยากได้ที่มุงหลังคา มีคนจะช่วยไหม อยากให้ช่วย เดือนนี้ฝนจะมาแล้ว เดือนหน้าก็ลม ไม่รู้จะอยู่ยังไง บางวันยายก็ร้องไห้นอนอยู่คนเดียว มีแต่คนถามไม่มีใครมาช่วยเหลือ เห็นบ้านอื่นทำไมเขาไปช่วยกันเยอะ ก็ไม่รู้สงสัยเป็นโควิดมั้ง ก็คิดไป แต่ก็อยากขอให้จิตอาสาคนที่ใจบุญ ช่วยสร้างบ้านให้ยายหน่อย ถ้าจะรอทำเองไม่รู้อีกเมื่อไหร่จะได้ทำ คงต้องอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ” ยายมันกล่าว

โดยคุณยายเองก็ไม่ได้เปิดรับบริจาคแต่อย่างใด เพียงแค่อยากได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานหรือส่วนที่เกี่ยวข้อง หรือกลุ่มจิตอาสาหรือผู้ใจบุญ มาช่วยซ่อมบ้านให้ยาย เพราะยายอยากได้รับการช่วยเหลือทำให้บ้านกันฝนได้ เอาแค่ให้อาศัยอยู่ต่อไปได้ แล้วก็ตอนนี้มีฝนตกน้ำฝนก็รั่วไหลตามรูของสังกะสี ต้องหลบตามมุมต่างๆ ที่ไม่รั่ว แต่ถ้าหากมีใครอยากช่วยเหลือจริง ๆ จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเป็นตัวกลางเข้าดำเนินการในส่วนการรับบริจาค และนำไปซ่อมแซมหรือสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับยายมัน ก็ยินดี