ตร.ตรวจความพร้อม สุวรรณภูมิ รับมือ เปิดประเทศ 1 พ.ย. 64

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ รอง ผบ.ตร. ตรวจเข้มสุวรรณภูมิ เตรียมพร้อม เปิดประเทศ 1 พ.ย. 64 รับนักท่องเที่ยว

เมื่อวานนี้ (29 ต.ค. 64) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาตรวจความพร้อม ในการเปิดประเทศ 1 พ.ย. 64

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า ไทยมีแผนจะเปิดประเทศ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 พ.ย. ที่จะถึงนี้ โดยนำร่องการท่องเที่ยวก่อน 17 จังหวัด เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศ แต่ก็ยังคงต้องดูแลความมั่นคงในเรื่องของสาธารณสุขควบคู่กัน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องให้หน่วยงานทุกหน่วยงาน เร่งเตรียมความพร้อมสำหรับการรับนักท่องเที่ยว โดยจะเน้นดูแล 3 ส่วนหลักๆ คือ

1.ด้านความสะดวกและรวดเร็วในการบริการ โดยเฉพาะขั้นตอนการเข้า-ออกประเทศ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองไว้ประจำสนามบินนานาชาติทั้ง 5 แห่ง คือสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต เชียงใหม่ และหาดใหญ่ จำนวนทั้งสิ้นกว่า 2,000 นาย และตำรวจท่องเที่ยวทั่วประเทศอีก 1,715 นาย

โดยก่อนสถานการณ์โควิด มีผู้โดยสารขาเข้าเฉลี่ยวันละประมาณ 100,000 คน แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด ปัจจุบัน มีผู้โดยสารขาเข้าเฉลี่ยวันละเพียง 1,400 คน เท่านั้น เชื่อว่าในช่วง พ.ย.-ธ.ค. 64 จะมีผู้โดยสารขาเข้าเฉลี่ยวันละ 4,000 คน

ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.สุวรรณภูมิ สามารถระบายผู้โดยสารได้ประมาณ 700 คน/ชม. แต่หลังวันที่ 1 พ.ย. 64 เป็นต้นไป หากผู้โดยสารใช้ แอปพลิเคชั่น Thailand Pass จะสามารถระบายผู้โดยสารถึง 2,000 คน/ชม. เนื่องจากไม่ต้องมีการสแกนเอกสาร เช่น เอกสาร COE, ใบ ตม.6, ต.8 เป็นต้น

2.ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การระวังป้องกันการติดเชื้อโควิด ทั้งตัวเจ้าหน้าที่เอง และนักท่องเที่ยว รวมถึงอุบัติภัยหรืออาชญากรรมต่างๆ ทาง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกประเภท เป็นเวลาติดต่อกัน 3 เดือนโดยเฉพาะการฉ้อโกง การหลอกลวงออนไลน์ หรือการจัดระวังป้องกันการนำข้อมูลส่วนบุคคลและการเงิน ธนาคาร บัตรเครดิต ไปใช้ รวมถึงได้มีการเร่งให้ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT) ,สอท. และ บก.ช. เร่งผลิตสื่อหรือข้อมูลเผยแพร่ให้ความรู้ในการป้องกันตนเองให้กับประชาชนแล้ว

สำหรับมาตรการระวังป้องกันการติดเชื้อโควิด ทั้งตัวเจ้าหน้าที่เอง และนักท่องเที่ยวนั้น ขณะนี้ ตม. และ ตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งจะมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลนักท่องเที่ยว ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 100% และจะฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้ได้อย่างน้อย 95% ก่อนเปิดประเทศ

ทั้งนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนายรักษามาตรการทางสาธารณสุขตลอดเวลา ทั้งขณะปฏิบัติงานและนอกเวลางาน

3.ให้นักท่องเที่ยว “อบอุ่น ประทับใจ” ได้สั่งการให้ สตม. และ บช.ทท. เชิญผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว มาประชุมเพื่อขอความร่วมมือให้มีการแจ้งที่พักตามกฎหมายให้ครบถ้วน 100% เพื่อสะดวกในการติดตามตัวและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ได้ให้ตำรวจหมั่นออกกวดขันตรวจตราผู้ประกอบการที่ฝ่าฝืน นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือภาคีเครือข่าย และประชาชนดูแลนักท่องเที่ยวให้เกิดความ “อบอุ่น ประทับใจ” สถานที่ท่องเที่ยวต้องมีมาตรการทางสาธารสุขอย่างเข้มงวด จุดใดที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรืออาชญากรรม ขอให้ช่วยกันปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น

นอกจากนี้ยังมี สายด่วนตำรวจท่องเที่ยว 1155 ให้บริการ 30 คู่สาย ตลอด 24 ชม. มีล่ามภาษา 5 ภาษา คือ อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซีย จีน พร้อมให้บริการให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ แจ้งเหตุ ร่วมกับ สถานีตำรวจท่องเที่ยว 32 สถานี และสถานีตำรวจทั่วประเทศ

คลิปอีจัน แนะนำ