ตายตอนไหน ? หนุ่มบุรีรัมย์ งง กลับบ้านมา เจอพ่อจัด งานศพ ให้ตัวเอง !

ตลกร้าย ที่ขำไม่ออก ! หนุ่มบุรีรัมย์ งง หายออกจากบ้าน 3 วัน กลับมา เจอพ่อจัด งานศพ ให้ตัวเอง ! ทำคนช็อกทั้งงาน

เรื่องราวตลกร้าย ที่ขำไม่ออก ! พ่อจัดงานศพให้ลูกชาย แต่ไหง เจ้าตัวกลับเดินเข้างานแบบงงๆ ซะงั้น

ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “สำรวย ยอดฟ้าอิน” ได้โพสต์ข้อความว่า “เกิดอุบัติเหตุช่วง 23.00 น. ของเมื่อคืนนี้ครับ รถสิบล้อชนคนตาย หัวเละ พอดีทางบ้านซาดมีคนหายเป็นคนขี้เหล้า บ่ได้เข้าบ้านแต่มื้อคืน ทางบ้านกะนึกว่าศพที่โดนรถเหยียบอาจจะแม่นลูกชายจะของที่หายไป กับแขนมีรอยสักบ่งบอกของรูปลักษณ์เป็นอย่างดี ทางเจ้าหน้าที่กะเลยจัดส่งศพที่ว่ามาไว้ทางบ้านตามที่ญาติพี่น้องบอกมา กะเลยพากันเตรียมงานหาหมู หาเหล้ายามาไว้ กะพากันจัดสรรฆ่าไปโตนึ่งพุ่นละ เต้นกะกางไปหลายหลังเติบ แต่เหตุการณ์กับมาพลิกผัน คนที่ว่าหายกลับมาบ้านช่วงสายของมื้อเช้านี่เอง เฮ็ดให้คนในหมู่บ้านตกใจพอสมควร พอดีหมู่บ้านข้างๆ กันคนกะหายไปพอดี กับรอยสักกะคือกัน กะเลยเรียกญาติพี่น้องเขามาเบิ่งกับชุดที่สวมใส่ในที่เกิดเหตุตรงกันเป๊ะ เขากะเลยทำการย้ายศพกันไปอีกหมู่บ้านนึ่งกะประมาณนี้แหล่ะครับ”

จากนั้นผู้สื่อข่าวภูมิภาคอีจัน ได้ติดต่อไปยังเจ้าของโพสต์ คือ นายสำรวย ยอดฟ้าอิน ชาวบ้านซาด ต.สระบัว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ จนทราบรายละเอียดและได้เดินทางต่อไปยังบ้านที่จัดงานศพ ซึ่งเป็นบ้านของนายสงัด หรือล้าน ที่ญาติเข้าใจว่าเป็นศพที่ถูกรถชนเสียชีวิต ก็พบว่าได้มีการตั้งเต็นท์จัดงานศพจริง มีชาวบ้านมาช่วยกันทำอาหารสำหรับเลี้ยงญาติพี่น้องและแขกที่มาช่วยงาน ที่สำคัญ รูปถ่ายของนายสงัด ที่เขียนรถบุวันชาตะ และมรณะไว้ชัดเจน

จากการสอบถามนายสงัด (คนที่ญาติและชาวบ้านคิดว่าเสียชีวิต) เล่าว่า ตนเองไปหยอดน้ำกรดและกรีดยางช่วยเพื่อนที่บ้านยางน้อยจึงนอนที่บ้านเพื่อนไม่ได้กลับบ้าน 3 วัน กระทั่งเมื่อช่วงสายได้ขับ ซาเล้งขนหญ้ามาให้ควาย พอมาถึงก็เห็นที่บ้านตั้งเต็นท์ คนเต็มบ้าน ตอนแรกก็คิดว่าคนที่บ้านเสียชีวิต

แต่พอเดินเข้าไปกลับพบรูปหน้าศพเป็นรูปของตัวเอง ทั้งญาติและชาวบ้านเองก็ตกใจที่เห็นตัวเองเดินเข้าไปเหมือนกัน ก็พูดติดตลกไปว่า “นี่กูตายแล้วเหรอ” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็คิดว่าพ่อน่าจะเข้าใจผิด คิดว่าคนที่ถูกรถชนเสียชีวิตเป็นตนจึงนำกลับมาจัดงานศพที่บ้าน

ด้านนายไพรัตน์ อายุ 61 ปี พ่อของนายสงัด เล่า คืนที่มีอุบัติเหตุรถชน ตนก็เดินทางไปดูศพที่เกิดเหตุแต่สภาพศพถูกเหยียบจนหน้าเละจนมองไม่ออกว่าเป็นศพใคร แต่ตนเห็นรอยสักที่แขนของศพคล้ายกับรอยสักของลูกชาย จึงเข้าใจว่าเป็นศพลูกชายจึงแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนกู้ภัยจะนำศพมาส่งที่บ้าน พอตอนเช้า ผู้ใหญ่บ้านก็ประกาศเสียงตามสายว่าลูกชายตนเสียชีวิต ก็มีชาวบ้านมาช่วยตั้งเต็นท์ ทำอาหารจัดงานศพ และนิมนต์พระมาสวดเรียบร้อย

กระทั่งเกือบเที่ยง ลูกชายก็ขับ ซาเล้งขนหญ้ามาที่บ้าน ทุกคนต่างตกใจช็อกกันทั้งงาน จากนั้นจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อนำศพส่งกลับไปยัง รพ. ส่วนหมู และอาหารที่สั่งมาก็จะถือโอกาสทำบุญบ้านและสะเดาะเคราะห์ให้กับลูกชายไปในตัวเลย

อ้าว ถ้านายสงัด ไม่ได้เสียชีวิต แล้วศพในโลง เป็นของใครล่ะทีนี้ ?

ต่อมาทราบภายหลังว่า ศพที่ตายเป็นชาวบ้านใกล้เคียง คือ นายวุฒิชัย อายุ 35 ปี ชาวบ้านหนองหัวแคน ต.สระบัว ด้านญาติของนายวุฒิชัย ผู้ที่เสียชีวิตจริงๆ ก็ได้รับกลับไปประกอบพิธีที่บ้านแล้ว

โดยพี่สาวคนตาย ได้เล่าว่า ปกติอยู่บ้านคนละหลังกับน้องชาย ได้ข่าวว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนคนแต่ไม่ได้ไปดูที่เกิดเหตุ เพราะไม่ได้คิดว่าเป็นน้องชายตัวเอง กระทั่งมารู้ทีหลังว่าน้องของตนเองไม่ได้กลับบ้านเมื่อคืน และมีคนมาบอกว่าศพที่ถูกรถชนไม่ใช่ศพของนายสงัด แต่น่าจะเป็นศพของน้องชายตนเองมากกว่า จึงได้เดินทางไปดูที่ รพ.ก็จำรอยแผลเป็นที่มือ ที่เท้า และเสื้อผ้าของน้องชายได้ จึงยืนยันกับเจ้าหน้าที่และขอรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน ไม่มีใครคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร แค่อยากให้คนที่ขับรถชนน้องชายเสียชีวิตมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น

อีจันขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของคุณวุฒิชัยด้วยนะคะ