วันนี้(8 มี.ค. 65) พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นฤบาล จิตทยานันท์ ผกก.สภ.แม่ปิง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบภายในบ้านหลังหนึ่ง ในซอย 2 ต.วัดเกต อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา นายวิรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี เจ้าของบ้านหลังนี้ พบซากศพทารกอยู่ในตู้แช่แข็งภายในบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบซากทารกไม่ทราบเพศถูกห่อด้วยผ้าห่มสีเหลือง สภาพเหลือแต่โครงกระดูก ข้างศพยังพบของเล่นเด็กวางไว้ด้วย คาดว่าจะเสียชีวิตมาแล้วมากกว่า 1 ปี
พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้ส่งศพเด็กไปตรวจชันสูตรที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นการเสียชีวิตผิดธรรมชาติหรือไม่หรือเกิดจากอะไร รวมทั้งจะสืบหาประวัติการคลอดตามโรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อหาดูว่าใครเป็นพ่อแม่ก่อนตั้งรูปคดีและทำการสืบสวน เบื้องต้นทราบว่าบ้านหลังนี้ถูกปิดทิ้งไว้นานแล้ว ก่อนที่เจ้าของบ้านที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศจะมาพบเข้า ส่วนของเล่นเด็กที่พบไม่น่าเกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์ อาจเป็นพ่อแม่ที่ใส่ไว้ให้
ด้าน นายธงชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี บอกว่าบ้านหลังนี้เป็นของนายนายวิรัตน์ น้องเขย ซึ่งเดินทางไปทำงานที่สหรัฐเมริกานานหลายปี โดยบ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้ กระทั่งสัปดาห์ที่ผ่านมานายวิรัตน์ได้กลับมาจังหวัดเชียงใหม่ และ จะปรับปรุงบ้านเพื่อกลับมาอยู่อาศัย โดยเมื่อคืนที่ผ่านมานายวิรัตน์เข้ามาที่บ้านและเจอตู้แช่แข็งล็อกไว้ จึงเปิดดูด้วยความสงสัย ก็พบว่ามีศพเด็กทารกอยู่ข้างใน
นายธงชัย เล่าอีกว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 การไฟฟ้าเรียกเก็บเงินค่าไฟที่บ้านหลังนี้ประมาณ 200 บาท ทั้งที่บ้านไม่มีคนอยู่มานานหลายปี ตนเองสงสัยเดินทางมาดู ก็พบว่าในห้องมีตู้แช่แข็งที่เสียบปลั๊กอยู่ ตนเองจึงถอดปลั๊กออก แต่ก็ไม่ได้เปิดดูเพราะเห็นว่าตู้ล็อกอยู่ จากนั้นก็ออกไปจากบ้านและไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งมาทราบข่าวว่าพบศพเด็กในตู้
สำหรับบ้านหลังนี้ไม่ได้เป็นบ้านเช่า แต่มีหลายห้องเพราะมีสมาชิกครอบครัวหลายคน จึงแบ่งเป็นหลายห้องให้อยู่กัน โดยหลังจากที่นายวิรัตน์ไปอยู่ต่างประเทศในช่วงแรก มีนางศรีน้อย แม่ของนายวิรัตน์ และนายเอ้ว ลูกเลี้ยงของนายวิรัตน์พักอยู่ที่บ้าน ก่อนที่นางศรีน้อยจะย้ายออกไป ส่วนนายเอ้วทราบว่าติดคุกในคดีลักทรัพย์