ต่างเชื้อชาติก็ช่วยกันได้! สุดเวทนา สองแม่ลูกชาวกัมพูชา นั่งขอทานใต้ BTS

หนุ่มโพสต์สุดเวทนา เจอ สองแม่ลูกชาวกัมพูชา นั่งขอทานใต้ BTS ล่าสุด เรื่องถึง พม. มารับไปดูแลแล้ว

เพราะทุกชีวิตมีค่า แม้ต่างเชื้อชาติ แต่ก็เป็นคนเหมือนกัน ช่วยอะไรได้ก็ช่วยกันไป…

มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ก้อง เกาลัด ได้โพสต์เล่าว่า เจอ 2 แม่ลูก นั่งขอทานอยู่ใต้สะพานรถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัย ซึ่งตัวเขาผ่านทุกวันก็จะเห็นมานั่งอยู่ทุกวัน จนในที่สุดก็แพ้ให้ความน่าเอ็นดูของหนูน้อยที่นั่งอยู่กับแม่ เขาจึงเข้าไปสอบถามเรื่องความเป็นอยู่ จนทราบว่า แม่รายนี้เป็นคน กัมพูชา ไม่มีบัตรประจำตัว ไม่มีบัตรอะไรเลย และลูกสาวตัวน้อยอายุ 1 ปี 2 เดือนแล้ว ชื่อน้องเมย์ ซึ่งทั้งคู่ไม่มีบ้านอยู่ อาศัยนอนที่วัดธาตุทอง มานั่งขอทานแบบนี้ แต่ละวันได้เงิน 100-200 บาท พอได้มีเงินเลี้ยงลูก ซึ่งแม่ก็บอกกับผู้โพสต์ด้วยว่า ไม่ต้องการเงิน ขอแค่นม เป็นกล่องตราหมีสำหรับเด็ก กับแพมเพิร์สก็พอแล้ว ผู้โพสต์จึงได้ซื้อนมกล่องให้น้องและยังซื้ออาหารไว้ให้แม่ได้กินด้วย

หลังจากที่โพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ออกไปจำนวนมาก ซึ่งเสียงส่วนใหญ่อยากขอให้ทางหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ

ล่าสุดวันนี้(18 ก.พ. 64) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ก้อง เกาลัด ได้โพสต์อัปเดตเรื่องราวของ 2 แม่ลูกชาวกัมพูชาอีกครั้ง โดยระบุว่า ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ พม. มารับทั้ง 2 คน ไปดูแลต่อแล้ว อีจันจึงได้ติดต่อหาผู้โพสต์ ทราบชื่อคือ คุณก้อง ซึ่งคุณก้องเล่าว่า หลังจากที่โพสต์นั้นมีคนแชร์เยอะ จึงทำให้เรื่องไปถึงเจ้าหน้าที่ แต่สิ่งที่คุณก้องฝากมาด้วยความเป็นห่วงสองแม่ลูก คือ คุณแม่บอกกับคุณก้องว่าไม่อยากกลับกัมพูชา เพราะเป็นคนที่อพยพมากับแม่ตัวเองตั้งนานแล้ว ซึ่งตอนนี้แม่ของเธอก็ตายไปแล้ว เคยมีสามีแต่ก็มาเลิกรากันไป ตอนนี้เลยเลี้ยงลูกเองคนเดียว ไม่มีบ้านอยู่ ที่มาขอทานแบบนี้เพราะอยากดูแลลูกไปด้วยหาเงินไปด้วย ก่อนหน้านี้ก็ทำงาน แต่รายได้ไม่พอในการเลี้ยงลูก ทั้งยังต้องดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด เลยไปหางานทำไม่ได้ คุณแม่ย้ำอีกทีด้วย ว่าไม่ได้อยากขอเงิน อยากขอแค่แพมเพิร์สกับนมไว้ให้ลูกเท่านั้น

ซึ่งคุณก้องยังบอกอีกว่า ตอนนี้ เรื่องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายแล้ว แม่และน้องอยู่ในความดูแลของ พม. โดยจะต้องทำการตรวจ DNA ระหว่างแม่กับน้องอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่าเป็นแม่ลูกกันจริง ซึ่งคุณแม่ก็ยินดีที่จะตรวจ หวังว่าทั้งสองคน จะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น และปลอดภัยจากโควิด 19 ในช่วงนี้