ทนายตั้ม พา ลุงพล ยื่นขอศาลคุ้มครอง หากถูกออกหมายจับ คดีชมพู่

คดีชมพู่ ล่าสุด ทนายตั้ม พา ลุงพล ยื่นขอศาลคุ้มครอง หากถูกออกหมายจับ ยืนยัน ไม่ได้ร้อนตัว แค่เตรียมการไว้ก่อน

แคปชั่น

คดีชมพู่ ล่าสุด วันนี้ (5 ก.พ. 64) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เผยหลังพา ลุงพล เดินทางมายื่นเอกสารที่ศาลจังหวัดมุกดาหารว่า การมายื่นเอกสารวันนี้ เป็นการยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวน หากลุงพลถูกออกหมายจับ

เพราะสำหรับคนที่ถูกออกหมายจับ สังคมส่วนใหญ่ก็จะต้องคิดไปแล้วว่าคนนี้คือคนร้ายตัวจริง วันนี้จึงต้องพาลุงพลมาขอความเมตตาจากศาลจังหวัดมุกดาหาร ให้ไต่สวนหาความจริงหากถูกออกหมายจับ ซึ่งการขอความคุ้มครองจากศาล ได้เขียนไปในเอกสารที่ยื่นคำร้อง โดยระบุว่า ลุงพล ขอความคุ้มครองในฐานะผู้ต้องสงสัย เพราะจากทางที่ตำรวจให้สัมภาษณ์ หลายคนก็พุ่งเป้ามาตลอด ว่าลุงพล คือผู้ต้องสงสัย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้ ทนายตั้ม มากับลุงพลคือรับทำ คดีชมพู่ แล้วใช่หรือไม่ ทนายตั้ม เผยว่า ยังไม่ได้รับทำคดี แต่สามารถทำเรื่องให้ได้ เพราะตอนนี้ลุงพลก็ยังไม่ได้มีคดีอะไร สำหรับการจะรับทำคดีหรือไม่เงื่อนไขยังคงมีเหมือนเดิม 3 ข้อ คือ

1.ต้องคุยกับลุงพล ซึ่งอันนี้ผ่านแล้ว

2. ต้องไปดูที่เกิดเหตุ

3. ต้องได้คุยกับพยาน

ซึ่งตอนนี้เราผ่านไป 1 อย่างแล้ว คือ การได้พูดคุยทางคดีกับลุงพล การมาครั้งนี้ ถือเป็นการช่วยเหลือ ลุงพล ไปก่อน สำหรับการมายื่นเอกสารคำร้องไว้ในวันนี้ ถึงแม้ว่าลุงพลจะยังไม่ถูกออกหมายจับ ก็ไม่ได้เสียหายอะไร ไม่กังวลว่าการที่มายื่นคำร้องในวันนี้จะเป็นการร้อนตัว เขาเรียกว่าเป็นการเตรียมการ มันเป็นสิทธิ์ที่เราจะทำได้ โดยปกติแล้วยื่นคำร้องลักษณะนี้ศาลจะรับอยู่แล้ว แต่จะให้ไต่สวนหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล

ซึ่งโดยปกติแล้ว ถ้าหากตำรวจขอออกหมายจับ เขาจะมีคำให้การและหลักฐานบางส่วน นำมาให้ศาลเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งทางทนายมองว่าถ้าหากเป็นแบบนี้ เราก็ไม่มีโอกาสที่จะได้ยื่นพยานหลักฐานต่อศาล จึงเป็นเหตุให้มายื่นขอศาลในวันนี้

สำหรับวันนี้ศาลจะรับเรื่องหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล แต่ถ้าเกิดว่าศาลเห็นด้วยและให้ความเป็นธรรมกับทางลุงพล ศาลท่านก็จะมีการให้ไต่สวนก่อน หากเปรียบเทียบกับคดีอื่น ทำไมถึงไม่มีการขอศาลคุ้มครองในลักษณะแบบนี้ ทางทนายตั้มมองว่า หลายๆ คดีมีการยื่นเรื่องให้ศาลคุ้มครอง เพียงแต่ไม่เป็นข่าวเท่านั้น ขณะที่ในวันพรุ่งนี้จะดำเนินการตามคำพูด คือ ขึ้นสำรวจภูเหล็กไฟ เพื่อที่จะทำตามเงื่อนไขข้อที่ 2 ส่วนวันนี้หลังจากที่ ยื่นเรื่องที่ศาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางทนายตั้มจะขอพูดคุยกับลุงพลเป็นการส่วนตัว โดยงดให้สื่อรวมถึงยูทูบเบอร์ติดตาม

ส่วนที่ตนได้ให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ว่ามีคนมาปั่นป่วนจนทำให้ตนเองทำคดียากนั้น ก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะตนเองนั้นทำคดีดัง แต่ก็ไม่สนใจ เพราะตนเองทำหน้าที่ของตน

ด้านลุงพล ถึงแม้ว่าวันนี้จะปิดวาจา แต่ก็ได้พูดกับสื่อสั้นๆ ว่า ณ เวลานี้ลุงพล ยังคงยืนยันความบริสุทธิ์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น หลังจากนี้จะสู้ไปตามสถานการณ์