นครศรีธรรมราช โดนฝนซัด อ่วมหนัก 23 อำเภอ
ผู้ว่าฯ จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ พร้อมเร่งอพยพชาวบ้านในหลายพื้นที่ แม้แต่พระสงฆ์ยังทนไม่ได้ แบกถุงยังชีพ ลุยน้ำสูงท่วมอก ช่วยชาวบ้าน!
วันนี้ (2 ธ.ค. 64) นายไกรศร วิศิษฏ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน 2 คืน ส่งผลให้น้ำฝนเอ่อล้นไม่สามารถระบายออกลงสู่ทะเลได้ทัน ให้มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ใน 2 เรื่อง คือ การติดตามเฝ้าระวังปริมาณฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง และการดูแลบุตรหลานไม่ให้ออกมาเล่นน้ำหรืออยู่ใกล้แหล่งน้ำตามลำพัง
ขณะที่ทางเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้ยกธงสีแดง ประกาศเสียงตามสาย ประสานทุกหน่วยงาน ให้เตรียมอพยพประชาชนและข้าวของไปอยู่ในที่ปลอดภัย
เนื่องจากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้แหล่งต้นน้ำสำคัญต่างๆ ปริมาณน้ำเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว จนล้นทะลักลำคลอง เข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน รวมทั้งถนนหลายสาย สร้างความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง ซึ่งขณะที่ได้รับรายงานว่า น้ำท่วมทั้งไปทั้งหมด 23 อำเภอแล้ว ระดับน้ำสูงประมาณ 40-50 ซม. ถนนบางจุดซึ่งเป็นที่ลุ่มต่ำมาก ระดับน้ำสูงกว่า 1เมตร
โดยเฉพาะ ปริมาณน้ำในคลองหนองบัว ม.3 ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นคลองขนาดใหญ่ที่รับน้ำมาจากคลองคีรีวง อ.ลานสกา โดยมีต้นน้ำมาจากเทือกเขาหลวง ก่อนไหลเข้าสู่ตัวเมืองเทศบาลเมืองนคร นครศรีธรรมราช กระแสน้ำยังคงไหลแรง
พื้นที่บ้านคีรีวง อ.ลานสกา น้ำป่าที่ไหลหลากลงมาอย่างรุนแรงตั้งแต่ช่วงเช้า ได้เข้าท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านและท่วมพื้นที่เกษตรเสียหายหลายจุด เบื้องต้น เจ้าหน้าที่การปกครองและทหารกองทัพภาค 4 ได้ ลงพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือแล้ว
ขณะที่กระแสน้ำป่าในคลองท่าดี ยังคงไหลหลากอย่างรุนแรง คาดว่าในคืนนี้ มวลน้ำมหาศาลดังกล่าว จะไหลเข้าท่วมพื้นที่ด้านล่างของ อ.ลานสกา อ.เมือง และเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
ชาวบ้านคนหนึ่ง ในพื้นที่เขต อ.เมือง เล่าให้ทีมข่าวอีจันในพื้นที่ฟังว่า น้ำได้ไหลเข้าท่วมถึงตัวบ้านเมื่อช่วงเวลา 13.00 น. ซึ่งอยู่กับลูกชายวัย 9 ขวบ เป็นเด็กพิการตั้งแต่กำเนิด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ น้ำก็มาเร็วมาก จึงต้องรีบพาหนีขึ้นมาอยู่บริเวณชั้น 2 ของตัวบ้านก่อน ขนของหนีน้ำไม่ทัน มีเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายอย่างได้รับความเสียหาย ฝนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก ที่สำคัญลูกชายก็ส่งเสียงดังร้องอยู่ตลอดเวลา เพราะกลัวเสียงฟ้าร้อง
อีกพื้นที่หนึ่งใน อ.เมือง พระสันติ ติสาโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหน้าพระลาน พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุขเกษม นครวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และกำลังตำรวจ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่มีบ้านอาศัยริมถนนสายน้ำแคบ – บางปู ต.ปากพูน ซึ่งมีบ้านถูกน้ำท่วมทั้งหมดจำนวน 25 ครัวเรือน ระดับน้ำท่วมสูง 1 – 2 เมตร
โดยทางพระสันติ นำถุงยังชีพ อาทิเช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง น้ำดื่ม รวมทั้งยารักษาโรค ที่จำเป็นต้องใช้ช่วงน้ำท่วม อย่างไรก็ตามเส้นทางที่เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านค่อนข้างคับแคบ บางจุดมีต้นไม้ขวางทาง จึงยากในการนั่งเรือ ทางพระสันติ และ พ.ต.อ.สุขเกษม จึงเดินลุยน้ำท่วมที่สูงเกือบถึงหน้าอก เข้าไปมอบถุงยังชีพให้ชาวบ้าน
ส่วนพื้นที่บ้านปากลง หมู่ 6 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ เส้นทางที่ใช้สัญจรผ่านลำคลองกลายถูกตัดขาด ชาวบ้านกว่า 20 ครัวเรือนที่ป่วยหนัก ได้รับความเดือนร้อน สัญจรไปมาไม่ได้ นายณัฎฐพล พราหมพูล ปลัดอำเภออาวุโส และเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน จึงร่วมกันสร้างสะพานเชือกหรือสะพานลิงช่วยชาวบ้าน แล้วชักรอกให้ชาวบ้านข้ามคลองมาอีกฝั่ง เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลนบพิตำ
แม้ว่าตอนนี้ ระดับน้ำจะยังสูงอยู่ในหลายพื้นที่ แต่ทางเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ก็ได้สั่งเตรียมให้หลายหน่วยงานคอยเฝ้าระวังและช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแล้ว และยังจัดตั้งศูนย์อพยพ จำนวน 10 ศูนย์ เพื่อรองรับประชาชนที่ประสบภัย โดยใช้โรงเรียนในสังกัดเทศบาลนคร เป็นศูนย์อพยพ หากต้องการความช่วยเหลือติดต่อ 199 ได้ตลอด 24 ชม