นักมวยเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพอนามัยสูง อาจกล่าวได้ว่า นักมวยเป็นอาชีพเสี่ยงภัย ที่ถูกมองข้ามด้านความปลอดภัย เพราะการชกมวยแต่ละครั้งนำมาซึ่งการบาดเจ็บและการเจ็บป่วย สะสม ยิ่งประกอบอาชีพนักมวยมาเป็นเวลานานๆ ความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต สมองได้รับการกระทบ กระเทือน ตาบอด และสูญเสียความทรงจำจะสูงมาก มีตัวอย่างมากมายที่นักมวยเสียชีวิตขณะชกหรือ หลังจากชก หรือมีอาการทางสมองและอาการทางประสาท จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สังคมไม่อาจเพิกเฉย
โดย 90% ของนักมวยมีอาการบาดเจ็บที่สมอง ถึงว่าผู้เสียชีวิตนั้นน้อยกว่ากีฬาอื่น ๆ แต่จำนวนนักมวยที่มีความเสียหายทางสมองเชื่อว่าสูงจนน่าแปลกใจเลย ส่วนอาการบาดเจ็บที่ศีรษะเป็นเรื่องธรรมดาในกีฬาชกมวย ซึ่งเป็นที่คาดกันว่าเมื่อมัดพุ่งตรงไปที่ศีรษะมันก็เหมือนกับการถูกลูกบอลโบว์ลิ่ง 13 ปอนด์ การถูกตีที่ศีรษะอาจทำให้กระดูกหักที่ศีรษะและใบหน้าและเนื้อเยื่อถูกทำลายกระทบสมอง สามารถทำลายพื้นผิวของสมอง ทำลายเครือข่ายประสาททำให้เกิดแผลเลือดออกหรือก่อให้เกิดการอุดตันของเลือดภายในสมองได้นั้นเอง อดีตนักมวยมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคของสมอง พวกเขาอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นโรค Alzheimer และ Parkinson สมองของนักมวยมีขนาดเล็กลงและสารสีเทาบนพื้นผิวบางลง
บริเวณที่ได้รับบาดเจ็บมากที่สุด
1. บริเวณใต้คางและบริเวณหน้าอก ซึ่งจะทำอันตรายต่อผิวหนัง เกิดบาดแผลฉีกขาด รอยฟกช้ำ อาจพบซี่โครงเดาะ เลือดออกภายใน แต่เป็นอันตรายน้อยกว่าที่เกิดที่บริเวณสมอง
2. บริเวณใบหน้าที่ถูกชก ทำให้กระดูก ใบหน้าแตก หัก อันตรายต่อตา ทำให้จอประสาท ตาหลุดและเลือดออกที่จอประสาทตา อันตราย ต่อฟัน อาจทำให้ฟันหัก
3. บริเวณกระโหลกศีรษะ ทำให้ กะโหลกแตก เส้นเลือดและเส้นประสาทฉีกขาด จากการศึกษาสมองของนักมวย พบว่า เซลล์สมอง เสื่อม ความจำเสื่อม ลูกตาแกว่ง (nystagmus) และสมองฟ่อ (brain atrophy) จากการถูกชก ซ้ำๆ รายที่เป็นโรคทางสมองเรื้อรัง พบโรค พาร์กินสัน สมองเสื่อม บุคลิกภาพเปลี่ยนแปลง cerebella dysfunction และ pyramidal tract dysfunction การถูกชกที่ศีรษะเหมือนการถูกตี ด้วยน้ำหนัก 12 ปอนด์ด้วยความเร็วที่ 20 ไมล์ ต่อชั่วโมง
4. ด้านดวงตา จุดข้างดวงตามีความเสี่ยงที่จะถูกกระทบโดยตรงได้ง่ายจากการชก ความเสียหายต่อดวงตาในการชกมวยอาจเกิดจากการสัมผัสโดยตรงหรือจากการกระแทก อาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บที่จอประสาทตาการตกเลือดที่จอประสาทตาและอาการบาดเจ็บอื่น ๆ
การบาดเจ็บจากแผลฟกช้ำฟันแตกปัญหาทางทันตกรรมซี่โครงหักเลือดออกภายในและความเสียหายต่ออวัยวะภายใน ล้วนเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยากของมวยอาชีกทุกคน ทั้งหมดนี้ก้ขึ้นอยู่กับความสามารถและวิชาป้องกันตัวที่ลดผลกระทบให้น้อยที่สุด
“สมองช้ำ”
อาการนี้หากทิ้งไว้นานๆ สมองจะเหี่ยว ซึ่งจะ ส่งผลในเรื่องความจำ นักมวยที่ถูกต่อยบริเวณ ส่วนบน จะเกิดอาการที่เรียกว่า “สมองกระฉอก” ความหนักเบาของอาการขึ้นกับแรงของหมัด ที่โดน ความถี่ในการโดนหมัด รวมทั้งบริเวณ ที่โดนเป็นจุดสำคัญหรือไม่ เมื่อสมองถูกกระแทก ภายในสมองจะเกิดแรงเฉื่อยขึ้น ส่งผลให้ การเคลื่อนที่ระหว่างสมองและกะโหลกที่ห่อหุ้ม สมองนั้นเป็นไปไม่พร้อมกัน สมองอาจเคลื่อนที่ไป ช้ากว่ากะโหลกหรือกะโหลกอาจเคลื่อนที่ไปช้า กว่าสมอง ส่งผลให้เส้นเลือดดำที่เชื่อมระหว่าง สมองและชั้นเยื่อหุ้มใต้สมองเกิดการยืดออก
ซึ่งจะนำไปสู่การฉีกขาด ทำให้เกิดอาการเลือดออกในสมองและคั่งสะสมจนไปกดสมอง ส่งผลให้เกิด อาการทางร่างกายตามมา อาการจะเริ่มหนักขึ้น อย่างรวดเร็วจนอาจเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการ รักษาทันท่วงทีดังนั้น อาชีพนักมวยจึงเป็นอาชีพ เสี่ยงมากที่สุด ถึงแม้ว่านักมวยจะสวมเฮดการ์ด (head guard) ก็ไม่สามารถป้องกันได้อาการ บาดเจ็บจากการชกมวยแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ อาการที่แสดงออกทันที และ อาการบาดเจ็บ ที่แสดงออกหลังจากที่เกิดการบาดเจ็บสะสมมา นานๆ
ยังมีนักมวยที่ต้องประสบ ปัญหาสุขภาพอันเนื่องมาจากการชกมวย บางราย หลังแขวนนวมแล้ว มีอาการป่วยเรื้อรัง เช่น พเยาว์พูลธรัตน์ที่ป่วยเป็นโรค เอแอลเอส (ALS) หรือโรคเซลล์ประสาทเสื่อม ซึ่งคาดว่าเกิดจาก การที่สมองและส่วนหัวกระทบกระเทือนตลอด เวลา แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์อดีตแชมป์โลกรุ่น ไลต์เวลเตอร์เวตสภามวยโลก นัยน์ตาข้างซ้ายเริ่ม มีปัญหาในการมองเห็น จนในที่สุดตาบอดมอง ไม่เห็น มีปัญหาเกี่ยวกับสมอง และเสียชีวิตด้วย โรคหลายๆ โรค ในเวลาต่อมา และล่าสุดเกิดเหตุสะเทือนวงการมวย อีกครั้งเมื่อ ปานเพชร ผดุงชัย หลังขึ้นชกศึกมวยไทยไฟต์เตอร์เอ็กซ์ กับ แอนโทนี่ ทีเอฟซี่ ซึ่งปานเพชร โดนศอกของเเอนโทนี่ ทำให้เกิดเหตุ ปานเพชร ล้มลงหัวฟาดฟื้นจนเลือดคั่งในสมอง อาการยังคงโคม่า โดยทั้งแฟนมวยและเพื่อนร่วมวงการต่างเป็นกำลังใจ
มาตรการป้องกันอันตรายจากการชกมวย
การชกมวยเป็นกีฬาที่มีอันตรายมาก ประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกาจึงเสนอให้ ยกเลิกการชกมวย แต่ยังไม่สำเร็จ ซึ่งประเทศไทยมีความพยายามในการป้องกัน อันตรายจากการชกมวย โดยอาศัยอำนาจตาม ความในมาตรา 9(5) และมาตรา 14 แห่ง พระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 ออกระเบียบ คณะกรรมการกีฬามวยว่าด้วยความปลอดภัย สำหรับนักมวย กำหนดให้นายสนามมวยและ ผู้จัดการแข่งขันมวยจัดให้มีมาตรการเพื่อ ความปลอดภัยสำหรับนักมวย (สำนักงานคณะ กรรมการกีฬามวย. 2553 ) ดังนี้ มาตรการรักษาพยาบาล , มาตรการเกี่ยวกับน้ำหนักตัว นักมวยและการตรวจสุขภาพ , มาตรการเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ใน การแข่งขัน , มาตรการเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ของพี่เลี้ยงนักมวย , มาตรการป้องกันการกระทบ กระเทือน ระบบประสาท สมอง และชีวิต
นอกจากมาตรการป้องกันอันตรายต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว ยังมีพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ. 2542 ที่กำหนดให้จัดตั้งกองทุนกีฬามวย ซึ่งมี วัตถุประสงค์เพื่อจัดสวัสดิการและให้ความช่วยเหลือ แก่นักมวยเมื่อได้รับบาดเจ็บ เจ็บป่วยจากการ แข่งขันกีฬามวยโดยตรง หรือประสบอุบัติเหตุ อันเนื่องจากการแข่งขันกีฬามวยหรือเสียชีวิต
กีฬาทุกประเภทนั้นย่อมมีความเสี่ยงอันตรายต่อร่างกายและชีวิต ไม่ว่าจะผลกระทบโดยตรงและผลกระทบทางอ้อม แต่ก็ขึ้นอยู่กับทักษะของนักกีฬาและมาตราการป้องกันกำกับดูแลของกีฬานั้นๆ อย่างไรก็ตามเมื่อคุณอยากเล่นกีฬาอะไรหรืออยากเป็นนักกีฬามืออาชีพ ควรศึกษาและเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมเสมอ เพื่อความปลอดภัยและผลกระทบในภายภาคหน้า
อ้างอิง :
สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย
วารสาร มฉก.วิชาการ 83 ปีที่ 15
คลิปอีจันแนะนำ
โดยต่อยไม่ยั้ง เพราะ บอกกะเพราหมูกรอบ