“นักศึกษาไทย” แชร์ประสบการณ์ มาตรการควบคุมโควิดในจีน

(6 มี.ค.65) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า อู๋เจิ้งซิน หรือ นายเจิ้งซิน อู๋ นักศึกษาแพทย์ไทยที่มีเชื้อสายจีนวัย 30 ปี อยู่ในเมืองไป่เซ่อ เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงทางตอนใต้ของจีน คือหนึ่งในผู้ที่เข้าใจมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างดีผ่านประสบการณ์จริง

โดยเขามองว่า มาตรการของจีนทำให้จีนคุมโรคระบาดได้ทันที ลดผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจ และส่งผลดีอย่างมากต่อการใช้ชีวิตและการทำงานของทุกคน

อู่เจิ้งซิน มาศึกษาต่อตั้งเเต่ปี 2014 จนถึงตอนนี้กำลังศึกษาระดับปริญญาโทด้านเนื้องอก มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์โย่วเจียง (Youjiang Medical University For Nationalities)

เมืองไป่เซ่อตั้งอยู่ทางตะวันตกของจีน มีพรมแดนติดกับเวียดนาม ซึ่งถือเป็นด่านแรกของการป้องกันโควิด ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ. อำเภอเต๋อเป่าพบว่าผู้เดินทางกลับมาจากต่างถิ่นรายหนึ่งมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ไม่กี่วันต่อมาเชื้อไวรัสก็เริ่มแพร่กระจายในไป่เซ่ออย่างรวดเร็ว

เหตุผลนี้ เมืองไป่เซ่อจึงกระชับมาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มควบคุมการจราจรทั่วทั้งเมืองตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 7 ก.พ. กระตุ้นให้ผู้อยู่อาศัยกักตัวอยู่ในบ้านและงดการเดินทางหากไม่จำเป็น ด้านมหาวิทยาลัยฯ ก็ใช้มาตรการการจัดการแบบปิดทันทีเช่นกัน

อู๋เจิ้งซิน ไม่มีอาการหวาดกลัวต่อการระบาดโรคโควิดที่มีความรุนแรงในเมืองที่อาศัยอยู่ เพราะเขาฉีดวัคซีน 3 โดสแล้ว อีกทั้งจีนยังคงยึดมั่นนโยบายโควิดเป็นศูนย์มาโดยตลอด อู่เจิ้งซิน เล่าว่า จีนประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดหลายครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เขาจึงเชื่อมั่นว่าการระบาดในเมืองจะคลี่คลายลงในไม่ช้า

ในฐานะนักศึกษาแพทย์ อู๋เจิ้งซิน ได้ร่วมเป็นอาสาสมัครควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 เขาทำงานอย่างแข็งขันตามจุดสุ่มเก็บตัวอย่างสำหรับทดสอบกรดนิวคลีอิก และตามโรงพยาบาลที่รักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยเขาได้แนะนำแก่ชาวบ้านที่มาเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งเพื่อให้ขั้นตอนต่างๆ เป็นระเบียบ ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพของการตรวจเชื้อ

อู๋เจิ้งซิน ได้สรุปว่า มาตรการควบคุมเชื้อโควิด-19 ของจีนได้มีการควบคุมเข้มงวดเป็นอย่างดี และมีประสิทธิภาพ และได้รับผลกระทบน้อย โดยใช้นโยบายกักตัวอยู่ที่บ้านอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันชาวเมืองก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จึงสามารถยับยั้งการระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว

ถ้าประเทศไทยยังคงได้รับผลกระทบจาการแพร่ระบาด ซึ่งตนหวังว่าสิ้นสุดลงในเร็ววัน และขอให้การใช้ชีวิตและทำงานของทุกคนกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุดเช่นกัน