ปคบ. ร่วมกับ อย. ทลายเครือข่าย ฟิลเลอร์เถื่อน มูลค่าของกลาง 4 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง โดย ปคบ. ร่วมกับ อย. ทลายเครือข่าย ลักลอบจำหน่าย ฟิลเลอร์เถื่อน ผ่านทางเว็บไซต์ มูลค่าของกลาง 4 ล้านบาท

ถือเป็นอีกหนึ่งข่าว ที่สาว ๆ ยุคใหม่ต้องระวังกันเป็นอย่างมากนะคะ เมื่อ ปคบ. ร่วมกับ อย. ทลายเครือข่ายลักลอบจำหน่ายฟิลเลอร์เถื่อน มูลค่าของกลาง กว่า 4 ล้านบาท

ซึ่งวานนี้ (8 ตุลาคม 2564) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ ปคบ. พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. โดย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ ภญ.สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกันแถลง ผลการปฏิบัติ กรณีจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ไม่ได้รับอนุญาตผ่านเว็บไซต์ www.whiteplusmm.com

สืบเนื่องจากผลการปฏิบัติงานในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจค้นสถานเสริมความงามที่ไม่ได้รับอนุญาต (คลินิกเถื่อน) และจับกุมผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต (หมอกระเป๋า) พร้อมตรวจยึดผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ผิดกฎหมายได้เป็นจำนวนมาก จากการตรวจสอบพบมีการใช้กรดไฮยาลูรอนิค ชนิดฉีด (ฟิลเลอร์) ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. มาฉีดให้กับผู้ใช้บริการเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของผิวหนัง ซึ่งอาจเกิดอันตรายแก่ร่างกายได้ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ.จึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. ประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ อย. สืบสวนขยายผลหาแหล่งนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ไม่ได้รับอนุญาต ดังกล่าว

จากการสืบสวนขยายผล พบมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ไม่ได้รับอนุญาต ผ่านทางเว็บไซต์ www.whiteplusmn.com ต่อมาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อย. นำหมายค้นของศาลอาญา เข้าตรวจค้นบ้านพัก ซอยลาดพร้าว 29 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่เก็บผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ยาและเครื่องมือแพทย์ ผลการตรวจค้นพบ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ยาและเครื่องมือแพทย์ จำนวน 65 รายการ ตรวจยึดของกลางจำนวนมาก มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เบื้องต้นถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ฐาน “ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต” และฐาน “ขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา” ต้องระวางโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และตามพระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 ฐาน “ขายเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. การดำเนินการในครั้งนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่างตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ปคบ. และ อย. ในการป้องกันอันตรายอันอาจเกิดแก่พี่น้องประชาชนที่ใช้บริการสถานเสริมความงามที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงเครื่องมือแพทย์และผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ไม่ได้รับอนุญาต และขอเตือนไปยังผู้ที่กระทำความผิดให้หยุดการกระทำดังกล่าว หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด และฝากความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชน ควรใช้บริการกับสถานเสริมความงามที่น่าเชื่อถือ ควรตรวจสอบใบอนุญาตและตรวจสอบผลิตภัณฑ์ยาที่จะใช้ว่าได้รับอนุญาตถูกต้อง หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค

ด้าน ภญ.สุภัทรา บุญเสริม ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวในตอนท้ายว่า ปัจจุบันพบว่า ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ต้องการดูแลภาพลักษณ์ของตนเองให้ดูดีอยู่เสมอ สถานเสริมความงามก็ทำการตลาดด้วยการโฆษณาขายยาฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ คอลลาเจน กลูตาไธโอน และเครื่องสำอางทางเว็บไซต์และช่องทางต่าง ๆ เพื่อเชิญชวนลูกค้ามาใช้บริการของตน จึงขอฝากผู้ที่ต้องการรับบริการให้ระวัง ควรเข้ารับบริการฉีดกับสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตประกอบสถานพยาบาลตามกฎหมาย และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต้องอยู่ประจำอยู่ ก่อนการฉีดควรสอบถามและขอดูตัวสารที่ฉีดที่ว่าได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายจาก อย. หรือไม่ เพราะอาจเสี่ยงต่อการเสียโฉมหรือเสียชีวิตตามที่เห็นข่าวมาแล้วนับไม่ถ้วน เพราะการศัลยกรรมหรือการฉีดบนใบหน้าต้องดำเนินการโดยแพทย์ที่มีความรู้ด้านกายวิภาคบนใบหน้าเป็นอย่างดี เนื่องจากบนใบหน้ามีกล้ามเนื้อเล็ก ๆ และเส้นเลือดมากมาย จึงต้องฉีดด้วยความระมัดระวังหากเกิดอันตรายจากการแพ้ ทางสถานพยาบาลจะได้รับผิดชอบและช่วยเหลือได้ หากพบเห็นการกระทำความผิดให้แจ้งเบาะแสมาที่สายด่วน อย. โทร. 1556 หรือร้องเรียนผ่าน Oryor Smart Application หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ