ผปค.แห่รับลูกหลาน ออกจากศูนย์บำบัดยาเสพติด หลังถูกเเฉเละเทะ

ปิดที่เดิม สั่งย้ายไปเขาชนไก่! เเต่ผปค.ไม่ทน แห่รับลูกหลาน ออกจากศูนย์บำบัดยาเสพติดเขาชนไก่ หลังถูกเเฉเละเทะ ทรมานทุบตี เเออัด

จากเรื่องราวโจ๋งครึ่มหมอปลา มือปราบสัมภเวสี ออกมาแฉวัดท่าพุราษฎร์บำรุง อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเปิดเป็นศูนย์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด คิดค่าบำบัด 10,000 บาท อยากให้ออกต้องมีเงินมาจ่ายไม่งั้นไม่ให้ออก คน 200 กว่าคน แออัดอยู่ข้างในที่มีห้องน้ำ 2 ห้อง จนมีคนตาย 3 ศพ พร้อมตั้งชื่อว่าที่นี่คือ นรกบนดิน นั้น

หลังเรื่องนี้ถูกเผยเเพร่ออกไป สร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการขนย้ายผู้บำบัดยาเสพติดทั้งหมด ออกจากภายในสถานบำบัดวัดท่าพุราษฏร์บำรุง อำเภอด่านมะขามเตี้ย หลังการลงพื้นที่ตรวจสอบตามข้อร้องเรียน ของผู้ปกครองผู้เข้ารับการบำบัด พบว่าสถานบำบัดแห่งนี้มีความแออัดยัดเยียด ผู้บำบัดจำนวน 216 คนต้องอาศัยอยู่ภายในเรือนนอนหลังเดียวที่มีห้องน้ำเพียง 2 ห้อง บางคนถูกทุบตี เรียกเงินจริง เเละสั่งปิดสถานบำบัดเดิม ก่อนที่จะสั่งย้ายที่บริเวณโรงพยาบาลสนามภายในค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหารเขาชนไก่

เเต่ล่าสุดวันนี้ 21 ก.ย.2564 ผู้ปกครองตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เเม้จะย้ายที่ เเต่ก็ทำใจไม่ได้ โดยบรรยากาศ ที่บริเวณโรงพยาบาลสนามภายในค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหารเขาชนไก่ ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

โดยปรากฏว่า ที่บริเวณโรงพยาบาลสนามภายในค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหารเขาชนไก่ มีพ่อแม่ผู้ปกครองของผู้เข้ารับการบำบัดจำนวนหลายสิบราย เดินทางมารอรับบุตรหลานกลับออกจากโรงพยาบาลสนาม โดยผู้ปกครองส่วนใหญ่ กล่าวว่า เมื่อได้เห็นข่าวก็ตกใจจึงรีบเดินทางมารับบุตรหลานของตนกลับบ้าน ซึ่งขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการจัดทำทะเบียนของกลุ่มผู้เข้ารับการบำบัด หากรายใดมีความประสงค์จะกลับบ้านและผู้ปกครองเดินทางมารับกลับก็สามารถกลับได้ทันที ส่วนในเรื่องของการดูแลผู้เข้ารับการบำบัดขณะนี้นั้น มีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลค่ายสุรสีห์ คอยดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด พบว่าผู้บำบัดส่วนใหญ่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคผิวหนัง คาดว่าเป็นผลมาจากความแออัดภายในสถานบำบัด

ด้านหมอปลา และคุณน้ำฟ้าแฟนสาว ได้จัดหายาโรคผิวหนังมาแจกให้กับกลุ่มผู้เข้ารับการบำบัดได้นำไปใช้แก้อาการคันและโรคผิวหนังเบื้องต้น ซึ่งหลังจากนี้ ทางหมอปลาจะได้ลงพื้นที่วัดท่าพุราษฏร์บำรุงอีกครั้งเพื่อไปติดตามทวงถามเงินเก็บที่ทางผู้ปกครองของผู้บำบัดส่งมาให้กับทางศูนย์ แต่ทางศูนย์ยังไม่คืนให้กับผู้เข้ารับการบำบัดที่ย้ายออกมาทั้ง 270 คน โดยอ้างว่ายังไม่สามารถเบิกเงินได้

ด้านนายแพทย์นิพนธ์ พัฒนกิจรุ่งเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ศูนย์บำบัดวัดท่าพุแห่งนี้ จัดตั้งขึ้นภายใต้ราชกิจจานุเบกษา ทำให้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรีไม่มีอำนาจโดยตรงที่จะเข้าไปตรวจสอบหรือสั่งปิด ที่ผ่านมา ทางทีมแพทย์ได้เคยเข้าไปทำการรักษาผู้เข้ารับการบำบัดที่มีอาการป่วยเท่านั้น แต่ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหารภายในได้ อีกทั้ง ที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยได้รับเรื่องร้องเรียนจากบรรดาผู้ปกครองหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากศูนย์บำบัดดังกล่าว แต่หลังจากที่ได้เห็นสภาพความแออัดภายในศูนย์บำบัดแห่งนี้แล้ว ที่รับผู้บำบัดเข้ามาอยู่ภายในศูนย์มากเกินกว่าจำนวนที่สามารถจะรับได้จริง

ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ส่วนกลางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันนี้ หากพบว่า ไม่สามารถรองรับผู้เข้ารับการบำบัดจำนวนมากได้จริงก็น่าจะต้องดำเนินการปิดศูนย์บำบัดแห่งนี้ไปก่อน

ติดตามกันต่อ แนวทางแก้ไขเรื่องนี้จะดำเนินต่ออย่างให้

คลิปอีจันแนะนำ
เปิดหมดใจ! อดีตผู้บำบัดยาเสพติด ในวัดดังแห่งหนึ่ง