เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2564 เฟซบุ๊ก “Komgrid Nasomjai” หรือ คุณคมกฤช โพสต์ร่ายยาวถึงปมดราม่าที่เกิดขึ้นระหว่างหลานสาวของเขากับคุณครูที่ปรึกษา เล่าทำนองว่าหลานสาวของเขา ซึ่งกำลังจะเข้าเรียน ม.4 ห้องพิเศษ EC ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ แล้วครูที่ปรึกษานัดให้ไปรับอุปกรณ์การเรียน แต่หลานของเขาไม่ได้อยู่ในกลุ่มไลน์ ซึ่งมีการชี้แจงเรื่องนี้ เลยไม่รู้ว่าต้องทำอะไร ยังไงบ้าง
พอหลานสาวรู้ว่ามีนัดไปรับอุปกรณ์การเรียน ก็เลยทักไปหาครูที่ปรึกษาในแชทส่วนตัว
ดูจากแชทแล้ว เหมือนเหตุการณ์จะจบในตัวนะคะ แต่! มันไม่ใช่อย่างนั้น เมื่อคุณครูแคปแชทดังกล่าวไปพูดคุยในกลุ่มที่ไม่มีหลานสาวของคุณคมกฤช และบอกว่าเด็กหญิงเยาะเย้ย ขณะที่เพื่อนๆ ร่วมห้องก็ต่างแชทตอบ แสดงความคิดเห็นในทำนองที่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจในมุมของเด็กหญิงเท่าไหร่นัก
เมื่อแชทกลุ่มนี้หลุดไปถึงเด็กหญิง โดยเพื่อนในกลุ่มไลน์ที่รู้จักกัน ทำให้ตอนนี้เด็กหญิงสภาพจิตใจย่ำแย่ ไม่กล้าไปเรียน ไม่อยากไปเรียน ถึงขั้นอยากย้ายกลับไปเรียนโรงเรียนเดิมแล้ว เพราะยังไม่ทันสนิท หรือรู้จักเพื่อนเลยยังต้องเจอขนาดนี้
“นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะครับ ครูที่ปรึกษาและนักเรียนบางส่วนเอาหลานผมไปนินทาในกลุ่มไลน์เก่า ไม่น่าเชื่อว่ายังจะมีสังคมแบบนี้ในโรงเรียนเก่าของผม ครูที่ปรึกษาไม่ควรจะพูดแบบนั้น หลานตนไม่มีเพื่อนที่นี่เลย เพราะเพิ่งย้ายมาจากอีกจังหวัดหนึ่ง จึงขอแชร์เรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับลูกหลานใครที่เคยโดนบูลลี่แบบนี้ ตั้งแต่ครูที่ปรึกษายันนักเรียนร่วมห้องบางคน”
ล่าสุด 3 มิถุนายน 2564 คุณคมกฤช โพสต์เฟซบุ๊กอัปเดตว่าได้รับแชทมาใหม่ ทีแรกตนก็คิดว่าครูที่ปรึกษาสำนึกผิด ไม่ถึงกับต้องให้ออกจากหน้าที่ แต่ตอนนี้อยากให้ออกจริงๆแล้ว เพราะแชทในกลุ่มของคุณครูที่มาถามหาตัวคนที่แคปไปฟ้องหลานสาว พร้อมบอกว่าเจตนาแค่ล้อเล่น ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายนักเรียน
คุณคมกฤช บอกว่า มันทำให้เห็นว่าครูคนนี้ยังไม่สำนึกผิดเลย ยังบอกที่พิมพ์เพราะขำๆ การที่ครูที่ปรึกษาพิมพ์คำว่า “มึง” ออกมาได้นี่ ไม่ขำนะ มันกระทบจิตใจมากๆ
เรื่องนี้ คุณคมกฤช เปิดใจกับอีจันว่า หลังเกิดเรื่องครูคนดังกล่าวได้ทักมาหาเด็กหญิงส่วนตัว แต่ไม่ได้มีการเจรจากับผู้ปกครองแต่อย่างใด ขณะที่หลังตนโพสต์เรื่องดังกล่าวออกไป ก็มีชาวเน็ตแห่ให้กำลังใจเด็กหญิงเป็นจำนวนมาก ทำให้สภาพจิตใจน้องเริ่มดีขึ้น หลังจากที่ร้องไห้ตาบวมทั้งวันก่อนหน้านี้
ขณะที่ ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว ได้เรียกตัวทั้ง 2 ฝ่ายไปเจรจากันในวันที่ 4 มิถุนายน 2564 ด้านคุณคมกฤช จะขอให้มีการสอบจรรยาบรรณวิชาชีพครู เพราะดูจากคำพูดที่ใช้ในแชท “มัน มึง กู” ไม่สมควรกับคนที่เรียกตัวเองว่าครู แทนที่นักเรียนใหม่ไม่รู้เรื่อง ควรจะเทคแคร์ ไม่ใช่มาทำแบบนี้
สุดท้ายแล้ว คุณคมกฤช ยังมองปลายทางเรื่องนี้ไม่ออกจริงๆ ว่า ครู หรือ นักเรียนที่ต้องถอย หรือจะจบยังไง ต้องรอผลการเจรจาทั้ง 2 ฝ่ายกับผู้อำนวยการก่อน