พระราหู คืออะไร ? ความเชื่อ และ ความศรัทธา

พระราหู คืออะไร ? ความเชื่อ และ ความศรัทธา ทำไมต้องอมจันทร์ แล้วทำไมต้องไหว้ ?

เมื่อใดที่พบปัญหาเกิดความวุ่นวาย การเปลี่ยนแปลง หรือภัยพิบัติ วิบากกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระดับไหนในทางโหราศาสตร์ ดาวราหู มักจะถูกพาดพิง อ้างอิงถึงเสมอ ว่าเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลง ความวุ่นวาย อุปสรรค โรคภัย หรือ ภัยพิบัตินั้นๆ ทั้งนี้เพราะดาวดวงนี้ เป็นดาวบาปเคราะห์ใหญ่ ที่ให้โทษรุนแรง

ราหู หรือ พระราหู

คือ เทพเจ้าแห่งการเปลี่ยนแปลง และภัยพิบัติ เพราะฉะนั้นเมื่อดาวราหู โคจรเข้าทับลัคนาของใครก็ตาม รับรองได้ว่าชีวิตของเขาจะต้องพบกับ “การเปลี่ยนแปลง” รวมถึงความวุ่นวายอุปสรรค เข้ามาข้องเกี่ยวเสมอ ตามตำนานเทวดานพเคราะห์ คัมภีร์เฉลิมไตรภพ พระราหู เป็นเทวดาลำดับที่ 8 เกิดจากการที่ พระอิศวร ทรงนำหัวผีโขมด 12 หัว มาป่นลงเข้าด้วยกัน แล้วประพรม ด้วยน้ำอมฤต จึงบังเกิด เป็นพระราหู ขึ้นมา

ยักษ์หรืออสูรที่มีกายเพียง ครึ่งท่อน มักปรากฏในลักษณะที่กำลังกลืนกินพระอาทิตย์หรือพระจันทร์ หรือทำท่าทางที่คอยดักจับพระอาทิตย์หรือพระจันทร์ซึ่งมาจากตำนานสุริยคราสและจันทคราส ความหมายในลักษณะดังกล่าวนี้สร้างมาจากคติความเชื่อเกี่ยวกับตำนานพระราหู ที่ว่า

ยักษ์ชื่อว่าพระราหูผู้เป็นโอรสของนางสิงหิกาในขณะประกอบพิธีกรรมกวนน้ำอมฤตของเทวดาและอสูร พระราหูได้ขโมยดื่มน้ำอมฤต พระอาทิตย์กับพระจันทร์ซึ่ง นั่งอยู่ด้วยกันได้ฟ้องแก่พระนารายณ์ว่ามีอสูรตนหนึ่งได้ดื่มน้ำอมฤตแล้วพระนารายณ์ จึงตัดเศียรอสูรคือพระราหูเพื่อลงโทษ แต่เพราะพระราหูได้ดื่มน้ำอมฤตไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่ตายแต่กายขาดเหลือเพียงครึ่งท่อน ด้วยความแค้นพระราหูจึงคอย พยายามกลืนกินพระอาทิตย์และพระจันทร์ เลยเป็นที่มาของราหูอมจันทร์

อีกทั้งบทความวิจัยจากวารสารมนุษยศาสตร์วิชาการ ปีที่ 26 ฉบับที่ 2 ได้อธิบายเชิงศึกษาการสร้างสรรค์ความหมายใหม่ของ สัญลักษณ์พระราหูในสังคมไทย ผ่านงานประติมากรรมพระราหู มีผลการวิจัยพบว่าในอดีตพระราหูเป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้ายหรือ อัปมงคลเห็นได้จากพิธีกรรมขับไล่พระราหูทั้งเวลาเกิดคราส ตลอดจนพิธีกรรม สะเดาะเคราะห์ส่งพระราหูเมื่อดาวราหูแทรกหรือเสวยอายุตามคติโหราศาสตร์ ทว่า ในปัจจุบันสัญลักษณ์พระราหูได้รับการสร้างสรรค์ความหมายใหม่ให้เป็นมงคล ได้แก่ พระราหูเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ พระราหูเป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภ และ พระราหูเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านชีวิตไปสู่ความสมบูรณ์พูนสุข

ทั้งนี้เป็นผล มาจากการแสวงหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในสังคมที่ต้องการแก้ไขวิกฤตในชีวิต อย่างรวดเร็ว โดยมีความคิดเบื้องหลังว่าเมื่อพระราหูเป็นสาเหตุของความทุกข์ใน ชีวิต การหันมาบูชาพระราหูก็เป็นเสมือนการอ้อนวอนให้พระราหูพอใจเพื่อที่จะงด การประทานทุกข์ โทษและภัยให้กับมนุษย์และกลับบันดาลสุขสมหวังให้ ด้วยเหตุผล ดังกล่าวจึงเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดการสร้างประติมากรรมพระราหูขนาดใหญ่ หลากหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการจะบูชาพระราหู ใน ขณะเดียวกันผู้สร้างพระราหูก็ได้ให้ความหมายใหม่กับพระราหูจากสัญลักษณ์ในทาง โชคร้ายให้เป็นผู้ประทานความสุขและความสมบูรณ์ให้กับชีวิต

วิธีไหว้พระราหูนั้น ดาวราหูนั้นจะมีเลข 8 เป็นสัญลักษณ์ และมีกำลังเท่ากับ 12 ของไหว้ที่ใช้ก็จะจัดเป็น 8 หรือ 12 อย่างก็ได้ แต่จะต้องมีครบทั้ง ของคาว เช่น ไก่ดำหรือซุปไก่, ของหวานหรือผลไม้ เช่น ขนมเปียกปูน, องุ่นดำ และเครื่องดื่ม เช่น กาแฟดำ, น้ำอัดลมสีดำ เป็นต้น แม้ว่าตามตำรับสะเดาะเคราะห์แบบโบราณจะต้องจัดของบูชา 12 อย่าง เพราะจำนวน 8 อย่างนั้นจะเป็นกำลังของดาวอังคาร แต่ในปัจุบันเพื่อความสะดวกในการเตรียม หลายๆ ที่ก็นิยมจัดด้วยของ 8 อย่าง เพราะจัดหาง่ายและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก

คนที่เหมาะไหว้พระราหู ได้ดีนั้นคือ คนที่เกิดวันพุธกลางคืน วันเสาร์ วันอังคาร เพราะเป็นวันของตัวเอง เป็นคู่มิตร คู่ธาตุกัน ส่วนคนที่เกิดวันอื่นก็ลองพิจารณา ในเรื่องวันคู่ศัตรู และตำนานชาติเวร ตำนาน กวนน้ำอมฤต ดูละกันนะครับ ถ้าต้องการไหว้พระราหู ก็ควรไปไหว้ที่วัด หรือ ทำบุญอุทิศให้ พระราหู ก็จะดีกว่าครับ

คลิปแนะนำอีจัน
จระเข้น้ำจืด พระเอกผืนป่า ชี้ความสมบูรณ์ ป่าเเก่งกระจาน