พี่ชายร้องเอาผิดคลินิกดัง หลังน้องสาว ดูดไขมัน เสียชีวิต

น้องสาวอดีตผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช เสียชีวิตหลัง ดูดไขมัน ที่คลินิกดังย่านรามคำแหง

ปัจจุบัน การทำ ศัลยกรรม ถือว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เพราะหลายๆ คนมองว่าการ ศัลยกรรม เป็นการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง เช่นเดียวกับหญิงสาวคนนี้ แต่น่าเศร้า…. ชีวิตเธอต้องจบลงเพราะการ ดูดไขมัน

นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พี่ชายของ นางศรัณย์ภัทร์ อิทธีรนันท์ ได้ร้องเรียนกับอีจัน ว่า นางศรัณย์ภัทร์ น้องสาวของตัวเองไป ดูดไขมัน ที่คลินิกชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่อยู่บริเวณซอยรามคำแหง 24 แยก 22 จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เมื่อวานนี้ ( 20 ก.พ. 2564)

ซึ่งขณะที่น้องสาวเข้ารับการดูดไขมันนั้น พบว่า ชีพจรต่ำผิดปกติ แต่ทางคลินิกยังยืนยันที่จะไม่ให้ส่งโรงพยาบาล โดยอ้างว่าไม่อยากให้เป็นคดีความ

นางสาว อัยมิญห์ อิทธีรนันท์ หรือน้องมิน ลูกสาวของนางศรัณย์ภัทร์ เปิดเผยว่า ปกติแล้วคุณแม่เป็นคนที่รักสวยรักงาม ก่อนที่คุณแม่จะตัดสินใจ ดูดไขมัน ก็ได้ปรึกษาโรงพยาบาลดัง และ คลินิกหลายที่ ก่อนที่จะตัดสินใจทำที่คลินิกแห่งนี้ ซึ่งในวันเกิดเหตุคุณแม่จะต้องเข้ารับการดูดไขมันตั้งแต่เวลา 10 โมงเช้า และจะเสร็จในเวลาประมาณบ่าย 2 โมง ตามที่คุณแม่ได้นัดให้ตัวเองไปรับ

แต่จู่ ๆ น้องชายได้โทรมาบอกตนในช่วงเวลาประมาณ 13.19 นาที ว่า คลินิกติดต่อมาว่าคุณแม่ชีพจรหยุดเต้น ตนจึงรีบไปที่คลินิกเมื่อไปถึงเห็นคุณแม่ในสภาพที่นอนนิ่ง ตัวแข็ง ตัวเย็น เชื่อว่าคุณแม่น่าจะเสียชีวิตมามากกว่า 1 ชั่วโมงแล้ว

ลูกสาว เล่าต่ออีกว่า ก่อนที่แม่จะตัดสินใจทำการดูดไขมันแม่ได้มีการแชทพูดคุยกับทางคลินิกว่ากลัวตาย แต่ทางคลินิกก็ยืนยันว่าฟื้นและจะไม่เป็นอะไร จึงทำให้คุณแม่เชื่อใจและตัดสินใจทำ

ขณที่ นายปณัญพงศ์ แสงเงิน ลูกชายอีกคน เปิดเผยว่า ตัวเองเป็นคนรับสายโทรศัพท์จากทางคลินิกที่แจ้งว่าแม่ของตัวเองนั้นชีพจรได้หยุดเต้นแล้ว อยู่ระหว่างการทำ ซีพีอาร์ ตนก็ถามทางคลินิกว่าสามารถส่งแม่ไปโรงพยาบาลได้หรือไม่ แต่ทางคลินิกตอบกลับมาว่า มันจะเป็นคดีความขอไม่ส่งไปที่โรงพยาบาล และเขาก็ได้บอกอีกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของคุณแม่ไปแล้ว เพราะทางคลินิกปั๊มชีพจรคุณแม่จนเลือดออกจากปอดแล้ว

ด้าน อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ปกติแล้วน้องสาวเป็นคนที่สุขภาพดีไม่มีโรคประจำตัว ร่าเริงแจ่มใสมาก ๆ แต่สำหรับกรณีนี้ตัวเองได้เข้าไปเห็นที่เกิดเหตุพบว่าคลินิกแห่งนี้ไม่ได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ หรือ ยาที่ใช้ในการรักษาต่าง ๆ นอกจากนี้หมอที่เป็นคนทำก็มีอายุถึง 72 ปี และไม่ใช่หมอประจำคลินิก จะเข้ามาทำที่คลินิกเป็นเคส ๆ ไป อาจจะไม่มีความชำนาญ แม้ว่าทางลูกค้าจะมีการเซ็นยินยอมเข้ารับการผ่าตัดแล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาเซ็นเพื่อมอบชีวิตให้

ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า หลังเกิดเหตุดังกล่าว ทางคลินิกได้มีการพยายามติดต่อเข้ามาพูดคุยกับทางญาติ ในเรื่องของเงินชดเชย แต่ทางญาติไม่ขอพูดคุยเพราะต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด