จากกรณี นายนายณัฐพล ปิยะนันทกุล อายุ 38 ปี อาชีพนักแสดงอิสระและเป็นเจ้าของคลินิกเสริมความงาม โพสต์คลิปเตือนภัย หลังจอดรถติดไฟแดงบริเวณแยกแคราย พื้นที่ จ.นนทบุรี จากนั้นมีหนุ่มเช็ดกระจกตามแยกไฟแดงเดินเข้ามา ตนพยายามโบกมือปฏิเสธแล้ว แต่หนุ่มเช็ดกระจกก็ยังคงเดินเข้ามาเช็ดจนเสร็จ แล้วมายืนรอเงินข้างประตู ระหว่างที่ตนกำลังจะหยิบเงินให้ หนุ่มเช็ดกระจกกลับนำสิ่งสกปรกมาป้ายที่กระจกรถ ตนจึงเปิดประตูเรียกให้กลับมาเช็ก แต่โดนถามกลับมาว่า “อยากตายเหรอ” และทำท่าทางคล้ายหยิบอาวุธออกมาจากด้านหลัง ตนจึงรีบล็อกรถเพื่อความปลอดภัย
จากนั้นหนุ่มเช็ดกระจกยังได้ขี่มอเตอร์ไซค์มาท้าทายให้ขับรถตามไป แต่ตนไม่ได้สนใจ จึงได้ขับรถไปแจ้งเหตุที่ป้อมตำรวจ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็รับเรื่องและเร่งประสานติดตามตัว
ล่าสุดวันนี้(31 มี.ค. 65) เวลา 12.00 น.ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมกำลังชุดสืบสวนได้เชิญตัวนายอนุชิต บรรทึก อายุ 29 ปี ชาว จ.ปทุมธานี ขณะกำลังเดินขายพวงมาลัยและเช็ดกระจกบริเวณแยกที่เกิดเหตุ มาสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายอนุชิต ให้การรับสารภาพว่า เป็นชายคนเดียวกับในคลิปที่ผู้เสียหายถ่ายเอาไว้ ซึ่งตนมีอาชีพขายพวงมาลัยและเช็ดกระจกรถที่สี่แยกนี้มานานกว่า 3 ปีแล้ว วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 12.00 น. ผู้เสียหายได้ขับรถเข้ามาจอดติดไฟแดงที่สี่แยกตนจึงเดินไปเช็ดกระจกรถให้เพื่อหวังได้เงินแต่เมื่อเช็ดกระจกรถเสร็จผู้เสียหายกลับทำท่าโบกมือไล่ ทั่งที่ก่อนจะเช็ดกระจกเขาก็เห็นว่าตนมาเช็ดกระจกรถให้ ตนจึงพูดไปว่าถ้าไม่ให้เช็ดก็น่าจะบอกกันดีๆเขาก็ทำท่าทางไม่พอใจเปิดประตูลงจากรถมาพูดว่า มาลบเลย เป็นจังหวะเดียวกับที่สัญญาณไฟเป็นสีเขียวพอดี ตนจึงข้ามกลับมาที่ริมถนนแต่ผู้เสียหายก็ไม่ยอมขับรถออกไป ทำให้รถติดมาก ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ขับเข้าไปยกมือบอกว่าให้ไปได้แล้ว หลังจากนั้นเขาถึงจะขับรถออกไป
นายอนุชิต ยืนยันว่า วันเกิดเหตุไม่ได้มีอาวุธอะไรติดตัวไปแต่อย่างใด ซึ่งก็อยากจะขอโทษทางผู้เสียหายที่ทำให้รู้สึกไม่ดี ยอมรับว่าตนใช้อารมณ์มากไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายนายอนุชิตแต่ไม่พบสารเสพติด ก่อนจะแจ้งข้อหาก่อให้เกิดความเดือดร้อน รำคาญต่อผู้อื่นในที่สาธารณะ มีโทษปรับ 1,000 บาท
คลิปแนะนำอีจัน
พ่อตาบอดนึกว่าถูกทิ้ง ลูกร่ำไห้ปลอบ “ลูกอยู่ตรงนี้นะพ่อ”