รองโฆษกอัยการสูงสุดแถลง สั่งสอบเพิ่มคดีแตงโม!

รองโฆษกอัยการสูงสุด แถลงคืบหน้าคดีแตงโม สั่งสอบเพิ่มหลายประเด็น ชี้แม้ผู้เสียหายฟ้องเองก็ไม่ตัดสิทธิอัยการฟ้องต่อ

วันนี้ (20 มิ.ย. 65) สำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตนางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม โดยนายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า ตามที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีอาญาหมายเลข 234/2565 ให้กับพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรีเพื่อพิจารณา เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งคดีนี้เป็นคดีสำคัญที่ประชาชนตลอดจนสื่อมวลชน ให้ความสนใจติดตามนำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น

สำนักงานอัยการสูงสุดขอแถลงความคืบหน้าของคดีและประเด็นที่เกี่ยวข้องที่สำคัญเพื่อทราบ ดังนี้

1.ด้วยคดีนี้เป็นคดีสำคัญ หลังจากพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรีได้พิจารณาสำนวนคดีนี้ในเบื้องต้นแล้ว ได้ส่งสำนวนคดีให้อธิบดีอัยการภาค 1 เพื่อพิจารณา ต่อมานายธีระนนท์ ไหวดี อธิบดีอัยการภาค 1 ได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 ของพระราชบัญญัติพนักงานอัยการและองค์กรอัยการ พ.ศ. 2553 ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาสั่งสำนวนคดีนี้ โดยมีรองอธิบดีอัยการภาค 1 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน จากการตรวจพิจารณาสำนวนของคณะทำงานเห็นว่าคดีมีประเด็นสำคัญที่จะต้องสอบสวนเพิ่มเติมหลายประเด็น เพื่อให้สิ้นกระแสความ คณะทำงานจึงเสนออธิบดีอัยการภาค 1 เพื่อสั่งสอบสวนเพิ่มเติม โดยอธิบดีอัยการภาค 1 มีคำสั่งสอบสวนเพิ่มเติมตามคณะทำงานเสนอ และได้มีหนังสือลงวันที่ 17 มิถุนายน 2565 สั่งให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติมให้แล้วเสร็จภายใน 15 วันแล้ว ดังนั้น ในชั้นนี้จึงจำเป็นต้องรอผลการสอบสวนเพิ่มเติม เมื่อผลการสอบสวนเพิ่มเติมครบถ้วนคณะทำงานและอธิบดีอัยการภาค 1 มีคำสั่งอย่างไร สำนักงานอัยการสูงสุดจะแถลงให้ทราบต่อไป

2.ประเด็นที่มีบุคคลบางคนให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่าหากผู้เสียหายฟ้องคดีนี้ต่อศาลแล้ว พนักงานอัยการจะไม่สามารถฟ้องคดีนี้ได้อีก โดยบุคคลดังกล่าวอ้างถึงระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2563 นั้น สำนักงานอัยการสูงสุดขอชี้แจงว่า ความเห็นของบุคคลดังกล่าวไม่ถูกต้อง ทั้งตามข้อกฎหมายและระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวคือระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุดว่าด้วยการดำเนินคดีอาญาของพนักงานอัยการ พ.ศ. 2563 ข้อ 48 (10) ระบุว่า

“เมื่อคดีเป็นความผิดต่อส่วนตัวและผู้เสียหายได้ยื่นฟ้องแล้ว ไม่ว่าจะได้ยื่นฟ้องก่อนหรือหลังจากที่พนักงานอัยการได้รับสำนวนการสอบสวน และไม่ว่าคดีที่ผู้เสียหายได้ยื่นฟ้องแล้วนั้นศาลจะพิพากษาแล้วหรือไม่ก็ตาม พนักงานอัยการจะมีคำสั่งยุติการดำเนินคดีนั้น” ซึ่งระเบียบดังกล่าวไม่ใช้บังคับกับคดี

อาญาแผ่นดินแต่อย่างใด และความเห็นของบุคคลดังกล่าวยังไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมาย ที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอีกด้วย

รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด บอกอีกว่า หากผลคืบหน้าคดีนี้เป็นประการใด สำนักงานอัยการสูงสุดจะแถลงให้ทราบต่อไป

คลิปอีจันแนะนำ
พิสูจน์ความรัก บนความแตกต่าง