รักในเเบบฉบับของพลัสเตอร์

พลัสเตอร์ ควงเเฟนหนุ่ม เปิดตัวครั้งเเรกในงาน อีจันHumantone เผย จะเป็นอะไรก็เป็น ในเเบบฉบับของเรา

“ยืนยันคำเดิม เราจะเป็นอะไรก็ได้ในเเบบฉบับของเรา”

ประโยคนี้ทัชใจ จากผู้ชาย ชื่อ พลัสเตอร์ พรพิพัฒน์ นักเเสดงหนุ่มชื่อดัง

พลัสเตอร์ พรพิพัฒน์ เเขกรับเชิญพิเศษ ที่มาร่วมงาน อีจัน Humantone เขาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงประเด็นที่เป็น LGBTQ พร้อมควงเเฟนหนุ่มเปิดตัวครั้งเเรกค่ะ บอกตรงๆว่าน่ารักมากๆ

พลัสเตอร์ให้สัมภาษณ์ว่า “เราผ่านกันมาเยอะเเล้วกับการใช้ชีวิตเอง ไม่ว่าช่วงไหนก็ตามค่อนข้างเซอร์ไพรส์เลย ดีใจมากๆที่ได้เห็น ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่เกิกขึ้น ขอบคุณทุกเสียง ทุกเเรงเชียร์ที่ทำให้เกิดขึ้นจริง

จริงๆมันเป็นเเค่วาระเเรก เรายังต้องต่อสู้อีกหลายขั้นตอน ผมเชื่อว่า วาระเเรกผ่านไป เรื่องดีๆต้องกลับเข้ามา ปีนี้ เป็นปีที่เปลี่ยนเเปลงค่อนข้างเยอะ

ตอนนี้เราสองคน อยู่ข้างๆกัน ปรึกษากัน ให้กำลังใจกัน นี่เป็นครั้งเเรกก็ตื่นเต้นพอสมควร เราซับพอร์ทกันหลายด้าน เหมือนเรากำลังเปลี่ยนขั้นบันได โชคดีที่มีพาร์ทเนอร์ที่ดี เราเองก็คิดกันมานานพอสมควรว่าจะมาดีไหม มันเป็นอะไรที่เราไม่รู้ว่าจะออกมา บวก หรือ ลบ เพราะ ถ้ามุมพื้นที่ส่วนตัวเราค่อนข้างเปิดตัวพอสมควร รักครั้งนี้ฝากเอ็นดูคู่เราด้วย

ถ้าชื่นชอบฝากซับพอร์ท อย่าทำลายเลย ไม่ว่าคู่รักคู่ไหนก็ตาม หรือคู่รักบนโลกใบนี้ วันนั้นตื่นขึ้นมาอยากจะบอกว่า เราจะเป็นพลัสเตอร์ให้ได้ จะดูเเลเขาให้ดี พยายามทำเเค่สิ่งดีๆให้เป็นเเบบอย่าง วันนี้ต้องบอกว่า พยายามรักษาเเละดูเเละซึ่งกันเเละกัน ในเเบบที่เราอยากจะให้เป็น

หลายคนมักจะเสพโซเชียลอย่างเดียว ดูเเต่มุมที่เขามีความสุข บางทีกว่าจะผ่านเเต่ละด่าน เเต่ละขั้นตอน ผ่านการตัดสินใจมาค่อนข้างเยอะ

จริงๆ เเล้วต้องบอกว่า

สมัยก่อนค่อนข้างกีดกัน “เรื่องทางเพศ” ตอนนี้โชคดีสังคมเปิดกว้างกันมากขึ้น เริ่มยอมรับมากขึ้น มีการศึกษาที่เข้าถึงมากขึ้น อาจจะง่ายกว่าเเต่ก่อน ส่วนเราอาจจะเป็นเรื่องในคนในครอบครัวมากกว่า ถึงขั้นทะเลาะกับพ่อเเม่ก็มี เพราะว่าเขาก็ไม่ได้ยอมรับ ว่าวันหนึ่งลูกชายจะมีเเฟนเป็นเพศเดียวกัน เป็นเกย์ เเล้วมีชีวิตรักที่เป็นเเบบนี้

พลัสว่าคนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตผ่านการเเคร์สายตาคนอื่นมากจนเกินไป จนลืมไปว่าบางครั้งเราควรจะ keep ความสุขให้ตัวเองบ้าง

อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตเเบบเเฮปปี้ เป็นอะไรก็เป็นเถอะ ทำมันให้เต็มที่ สักวันหนึ่ง เขาก็รู้สึกว่ายอมรับเราเอง เเต่เราไม่จำเป็าจะต้องไปรู้สึกว่า เป็นด่านที่เราจะต้องผ่านให้ได้ เพื่อให้เขายอมรับ ไม่จำเป็น ยืนยันคำเดิม เราจะเป็นอะไรก็ได้ในเเบบฉบับของเรา