ร้านขายถ่านที่นำเข้าจากประเทศพม่า มีการปรับราคาขึ้นกระสอบละ 10 บาท หลังน้ำมันดีเซลราคาแพงขึ้น และก๊าซหุงต้ม(LPG) กำลังจะปรับราคาขึ้นในวันที่ 1 ก.ค.65 นี้
วันนี้ (23 มิ.ย.65) ที่ร้านขายถ่านของนางสายเพชร แซ่ลิ่ม อายุ 64 ปี อ.เมือง จ.สงขลา เปิดร้านขายถ่านมาเป็นเวลานานกว่า 70 ปี โดยรับช่วงเป็นรุ่นที่ 2 จากคุณพ่อและขายถ่านเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าขาประจำและขาจรที่ยังคงมาซื้อถ่านที่ร้านอย่างต่อเนื่อง
ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประเภทขายของปิ้งย่าง ที่ต้องใช้เตาถ่าน รวมทั้งร้านขนมไข่เตาถ่าน 2-3 ร้านที่จำเป็นต้องใช้ถ่าน เนื่องจากถ่านที่ร้านเป็นถ่านที่มีคุณภาพ เป็นถ่านอัดเเท่ง ถ่านไม้ทุกชนิด นำเข้ามาจากประเทศพม่า ตัวถ่านทำมาจากไม้ชั้นดี จุดไฟติดง่าย ไม่มอดดับเร็ว อึด ทน อยู่ได้นาน มีคุณภาพอย่างมาก ไร้กลิ่น ไร้ควัน
ทุกๆ 10 วัน จะมีรถบรรทุก 10 ล้อ ขึ้นไปรับถ่านนำเข้าจากประเทศพม่าที่ จ.ระนองเอง ในแต่ละเที่ยวจะนำถ่านกระสอบละ15 กิโลกรัม เข้ามาประมาณ 1,000 กระสอบ โดยไม่ต้องว่าจ้างคนอื่นให้บรรทุกมา เพราะจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น เนื่องจากในช่วงนี้ราคาน้ำมันดีเซลแพง จะต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้นอีก 1,000 บาท ทั้งไปและกลับ ทำให้ทางร้านสามารถปรับราคาขึ้นเป็นค่าขนส่งเพียงกระสอบละ 10 บาทเท่านั้น ซึ่งตรงนี้ลูกค้าที่มาซื้อถ่านทุกคนพอใจ เนื่องจากราคาไม่แพงเกินไป สามารถรับได้
ในขณะเดียวกัน เนื่องจากจะมีการปรับราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม(LPG) ที่ 408 บาทต่อถัง ขนาด 15 กิโลกรัม เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย. 2565 ส่งผลทำให้ประชาชนหันกลับมาใช้เตาถ่านมากขึ้น เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและอาจทำให้มีการปรับราคาถ่านจากต้นทางจังหวัดระนอง ที่นำเข้าถ่านจากประเทศพม่าอีกครั้งหนึ่ง ก็คงจะต้องรอดูว่าต้นทางที่ส่งถ่านข้ามประเทศมาจากประเทศพม่า จะมีการปรับราคาขึ้นอีกหรือไม่
นางสายเพชร เล่าอีกว่า ลูกค้าก็ไม่ว่าอะไรพอใจราคาไม่แพงเกิน รับได้ ส่วนในกรณีที่จะมีการปรับราคาแก๊สขึ้น และประชาชนหันมาใช้ถ่านมากขึ้นอันนี้แน่นอน ส่วนจะมีการปรับราคาถ่านขึ้นอีกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับต้นทาง หากขึ้นราคามา ทางเราจำเป็นก็ต้องขึ้นราคาเช่นเดียวกัน แต่หากไม่มีการขึ้นราคาทางเราก็ไม่กล้าขึ้น
คลิปอีจันแนะนำ
ขันสุดใจ ไปให้สุดเสียง