ศรีสุวรรณ ร้อง มหาเถรสมาคมกำหลาบ พระนอกรีตเจิม “นะหน้าทอง”

ศรีสุวรรณ เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้อง มหาเถรสมาคมกำหลาบ พระนอกรีตเจิม “นะหน้าทอง”

จากรณี ลูกศิษย์แห่จองคิว พระครูสมุห์นพดล ปิยะธัมโม เจ้าอาวาสวัดศาลารี ต.บางไผ่ อ.เมืองนนทบุรี ลงนะหน้าทอง เพื่อหวังให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน การค้าขายร่ำรวย และมีโชคลาภ

ลูกศิษย์ แห่จองคิว ลงนะหน้าทองทั้งหน้า! ทะลุ 100 คน ต่อวัน

ล่าสุด 18 ม.ค.65 เฟซบุ๊ก ศรีสุวรรณ จรรยา ได้ออมาโพสต์ถึงกรณีดังกล่าว ว่าเป็นการขัดต่อพระธรรมะวินัย ทำให้สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ไม่อาจเมินเฉยได้ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้เข้าร้องต่อ มหาเถรสมาคม ให้กำหลาบพระนอกรีตดังกล่าว

โดยมีข้อความระบุว่า

“นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้มีพระชั้นผู้ใหญ่ระดับพระครู หรือเจ้าอาวาสวัดหลายวัด ได้กระทำการเผยแผ่พระศาสนาที่อาจขัดต่อพระธรรมะวินัยเป็นจำนวนมาก โดยอาศัยความโง่เขลา เบาปัญญาของพุทธบริษัท เป็นเครื่องมือในการแสวงหาลาภปัจจัย ซึ่งมหาเถรสมาคมควรที่จะต้องออกมากำหลาบหรือจัดการพระนอกรีตเหล่านี้เสีย เพื่อมิให้ศาสนาแปดเปื้อน และถูกเข้าใจผิดว่า การกระทำดังกล่าวเป็นกิจของสงฆ์

พฤติการณ์ดังกล่าว อาทิ การเขียนยันต์ต่าง ๆ โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการเตือนสติผู้คนให้ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท ดำเนินชีวิตด้วยสติสัมปชัญญะ ตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมและรักษาศีล 5 รวมทั้งที่กำลังเป็นกระแสฮิตกันมากคือ การเจิมหน้าผากด้วยแผ่นทองคำเปลว การเขียนยันต์หัวใจมหาเศรษฐีลงบนฝ่ามือ และการลงนะหน้าทองแบบเต็มใบหน้า โดยอ้างว่าจะช่วยเสริมสร้างสิริมงคล หนุนดวง เสริมดวงชะตาในด้านเมตตา มหาเสน่ห์ เสริมบารมี และเพิ่มโชคลาภ ลงแล้วจะเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย ซึ่งถ้าทำแล้วทำให้ร่ำรวยจริง คงไม่มีคนยากคนจนเต็มแผ่นดินอยู่ในขณะนี้

การกระทำดังกล่าวไม่ใช่กิจของสงฆ์ ไม่เคยปรากฏอยู่ในพระไตรปิฏก และหรือไม่อยู่ในคำสอนของสัมมาสัมพุทธเจ้า หากแต่เป็น “โลกวัชชะ” เป็นอวิชชา หรือเดรัจฉานวิชา ที่พวกหมอผี หรือผู้ที่นิยมทางไสยศาสตร์เขาทำกัน ซึ่งขัดต่อความเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนา ที่มุ่งสอนให้พุทธบริษัทหลุดพ้นจากวัฏฏะสงสาร มุ่งสู่ศีล สมาธิ และปัญญา มากกว่าการเผยแพร่พระศาสนาโดยใช้อวิชชาทางไสยศาสตร์เป็นธงนำ และการกระทำดังกล่าวอาจจะผิดศีลอาบัติขั้นสังฆาทิเสสได้ เนื่องจากเสี่ยงที่จะแตะเนื้อต้องตัวผู้หญิงหรืออุบาสิกาได้ หรือถึงขั้นอาบัติปาราชิกได้ เพราะอาจถือได้ว่าเป็นการอวดอุตตริมนุสสธรรม หรือการอวดอ้างคุณวิเศษที่ไม่มีในตน

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้มีหนังสือร้องเรียนไปยังมหาเถรสมาคม ผ่านสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อขอให้ใช้อำนาจตาม พรบ.คณะสงฆ์ 2505 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในการเอาผิดพระนอกรีตเหล่านี้ และออกกฎมหาเถรสมาคม เพื่อสั่งห้ามพระภิกษุในพุทธศาสนาเผยแพร่พระศาสนาโดยวิธีการเจิมหน้าผากด้วยแผ่นทองคำเปลว และหรือการเขียนยันต์หัวใจมหาเศรษฐีลงบนฝ่ามือ และการลงนะหน้าทองให้กับพุทธบริษัทโดยเด็ดขาด หากมีพระรูปใดฝ่าฝืนให้ทำการจับสึกไปเสีย และหรือถอดถอนสมณศักดิ์ที่มีออกไปเสียด้วย นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด”

คลิปแนะนำอีจัน
จากปังเป็นพัง! #อุทาหรณ์โบท็อกซ์