ศาลตัดสินจำคุก 20 ปี ปรับ 720,000 บาท “ผู้กองบอย” อดีต รอง สว.สส.สน.วังทองหลาง ฆ่าเมียตัวเอง
ยังจำกันได้ไหมคะ คดีพลตำรวจเอก ทรงกลด บุญส่ง หรือ ผู้กองบอย ยิงภรรยาชื่อ นิ่ม อายุ 30 ปี เสียชีวิตในบ้านพัก ย่านถนนแฮปปี้แลนด์ เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.63 โดยอ้างว่าทำปืนลั่น
ผู้กองบอย กราบขมาศพ “ปูนิ่ม” ก่อนเป็นลม เพราะเครียดจัดหลังจากผ่านไป 2 ปี ล่าสุดวันนี้ (15 มิ.ย.65) ศาลตัดสินแล้วค่ะ เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก อดีต ร.ต.อ.ทรงกลด บุญส่ง หรือ “ผู้กองบอย” พร้อมทนาย ได้เดินทางมาศาลเพื่อฟังคำพิพากษาคดีฆ่าผู้อื่นฯ
โดย นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความของผู้กองบอย ได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนสั้นๆ ยังยืนยันว่า ลูกความตนเองได้ยืนยันข้อเท็จจริงไปตั้งแต่ต้น ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุ เป็นเหตุสุดวิสัย ไม่ใช่การตั้งใจ เพราะทั้งคู่ก็อยู่กินรักใคร่กันมานาน จนมีลูก จึงไม่มีเหตุใดที่ต้องฆ่ากัน ก็หวังว่าจะได้ความยุติธรรมว่าลูกความตนเองไม่ได้มีเจตนาตามที่เป็นข่าวไปว่าตั้งใจฆ่าภรรยา ส่วนศาลจะตัดสินพิพากษาอย่างไรก็พร้อมน้อมรับ คำพิพากษาของศาล เพราะถือเป็นดุลพินิจของศาลที่ไม่อาจก้าวล่วงได้
ส่วน ผู้กองบอย ได้บอกว่า วันนี้ก็ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง ขอให้ได้ออกมาเห็นหน้าลูก ส่วนศาลจะพิจารณาอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับศาล แต่สิ่งที่ตัวเองรู้แน่ชัดคือ ตัวเองพูดความจริงไปทั้งหมดทุกอย่างแล้ว ในวันสืบพยาน วันนี้ก็ขอให้พระเจ้าคุ้มครองได้ออกมาเห็นหน้าลูก
สำหรับคดีนี้ อัยการโจทก์ระบุว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2563 เวลากลางคืนก่อนเที่ยง จำเลยได้มีเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืนพกสั้น ขนาด .45 ซึ่งเป็นอาวุธปืนของจำเลย จ่อกดไปที่ศีรษะของ น.ส.พิมชฎาพร หรือน้องนิ่ม อายุ 30 ปี ภรรยาซึ่งไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เพื่อข่มขู่
โดยจำเลยย่อมเล็งเห็นได้ว่าหากกระสุนปืนลั่นออกมา จะทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ จึงเป็นเหตุให้มือของผู้ตาย ไปถูกอาวุธปืนดังกล่าวและทำให้อาวุธปืนลั่นออกมา 1 นัดกระสุนปืนถูกที่ศีรษะของ น.ส.พิมชฎาพร จนถึงแก่ความตาย
เหตุเกิดภายในทาวน์เฮาส์ หมู่บ้านเสนาวิลล่า ถนนแฮปปี้แลนด์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ขอให้ลงโทษจำเลยความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ที่ผ่านมาจำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี และได้รับการประกันตัว โดยศาลตีราคาประกัน 5 แสนบาท
ต่อมาศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคำให้การของจำเลย มีพิรุธ อีกทั้งพยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมมีน้ำหนักน่าเชื่อถือกว่า รวมถึงจำเลยเป็นตำรวจ ต้องรู้อยู่แล้วว่าอาวุธปืนเป็นสิ่งอันตราย การนำมาจ่อศีรษะผู้อื่นย่อมเล็งเห็นผลถึงแก่ชีวิต มีความเห็นพิพากษาตัดสินให้ จำคุกจำเลย เป็นเวลา 20 ปี และให้จ่ายเงินจำนวน 720,000 บาท เป็นค่าเลี้ยงดูแก่มารดาของ ผู้ตาย
คลิปอีจันแนะนำ
สู้ชีวิตกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์!