สธ. ชวน ลดกิจกรรมก่อฝุ่น รับคำเตือน กรมควบคุมมลพิษ

สธ. ชวนชาวกรุงและ 17 จังหวัดภาคเหนือ ลดกิจกรรมก่อฝุ่น รับคำเตือน กรมควบคุมมลพิษ 25-28 ม.ค. แนวโน้มสูง

นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) กรมควบคุมมลพิษคาดการณ์ปริมาณ PM2.5 ในช่วงระหว่างวันที่ 25-28 ม.ค. 65 ในพื้นที่ภาคเหนือ 17 จังหวัด รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบว่า PM2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ปิดและลมอ่อน ซึ่งฝุ่นละออง PM2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั้งระบบทางเดินหายใจ โรคปอดติดเชื้อ โรคปอด อุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง และสุขภาพอนามัยแม่และเด็ก โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ กลุ่มที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ สาเหตุปัจจัยเกิดจากสภาวะอากาศและพฤติกรรมของมนุษย์ เช่น การใช้น้ำมันดีเซลที่มีการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ การเผาป่า การเผาขยะกลางแจ้ง การก่อสร้างที่ไม่ได้มีการควบคุมมลพิษ ล้วนก่อให้เกิดผลเสียทางตรงและทางอ้อมต่อสุขภาพทั้งสิ้น ดังนั้นความร่วมมือและการสร้างความมีจิตสำนึกในการสร้างสรรค์สังคม จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในการป้องกัน เฝ้าระวังไม่ให้ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ

ด้านทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 สามารถลดกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 ด้วยการใช้หลักสุขบัญญัติข้อที่ 10 การมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม ร่วมสร้างสรรค์สังคม เช่น 1.การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากาก N95 ก่อนออกจากบ้าน, 2.ไม่เผาป่าและเผาขยะกลางแจ้ง, 3.ใช้รถยนต์เท่าที่จำเป็น ลดการใช้น้ำมันดีเซลที่มีการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ บำรุงรักษารถยนต์ และหมั่นดูแลรักษาเครื่องยนต์ให้มีสภาพพร้อมใช้งานและไม่ก่อให้เกิดควันดำ, 4.ลดการใช้ธูป ดูแลความสะอาดภายในบ้าน ที่เป็นแหล่งสะสมฝุ่น เช่น มุ้งลวด เครื่องปรับอากาศ ผ้าปูที่นอน พรม ผ้าม่าน เป็นต้น, 5.ผู้ที่เกี่ยวข้องควบคุมงานก่อสร้าง ก่อสร้างถนน ระบบสาธารณูปโภค การขนบรรทุกและขนส่งให้ฝุ่นละอองอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้สามารถตรวจสอบคุณภาพอากาศจาก Air4thai ก่อนออกจากบ้าน และสามารถศึกษาค้นคว้าความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ ได้ทางคลังความรู้สุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข www.healthydee.moph.go.th

คลิปแนะนำนอีจัน
“แมวหายไป ไม่มีกำลังใจใช้ชีวิต”