นายแพทย์อุดม คชินทร ที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เปิดเผยว่า ในการประชุมศบค.ชุดใหญ่ วันนี้ (22 เม.ย. 65) กระทรวงสาธารณสุขเสนอดำเนินการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ โดยมาตรการสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย อาจจะให้มีการตรวจเอทีเคภายใน 24 ชั่วโมง กรณีฉีดวัคซีนครบสามเข็ม รวมทั้งยังคงลงทะเบียนผ่านไทยแลนด์ เพื่อส่งผลตรวจเอทีเค, พิจารณาปรับลดวงเงินประกันสุขภาพของชาวต่างชาติก่อนที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยเหลือ 10,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือยกเลิกไปเลย ขณะเดียวกัน จะลดวันกักตัว เหลือ 5 วัน สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนไม่ครบตามกำหนด แต่คนที่ไม่ฉีดต้องกักตัว 14 วัน
นอกจากนี้ยังเห็นว่า มาตรการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ หากดำเนินการได้เร็ว ก็จะเป็นการเดินหน้าเศรษฐกิจ ดึงนักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศไทยได้ ขณะเดียวกันตัวเลขผู้ติดเชื้อของนักท่องเที่ยว เมื่อเดินทางเข้าประเทศไทย มีเพียงร้อยละ 0.5 เท่านั้น ดังนั้นหากเลื่อนการเปิดประเทศ ไปอีก 1-2 เดือน ประเทศก็จะเสียโอกาส เพราะในช่วงนี้ถือว่าต้องเดินหน้าเรื่องเศรษฐกิจให้กับประเทศ
พร้อมระบุว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศไทย หลังเทศกาลสงกรานต์ 7 วัน พบว่ามีผู้ติดเชื้อน้อยลง ซึ่งน้อยกว่าที่ทาง ศบค. คาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันตัวเลขผู้ป่วยในระดับสีเหลืองและแดงก็ลดลง ถือว่าสถานการณ์โควิดอยู่ในช่วงขาลง จึงขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือกัน แต่จะนิ่งนอนใจไม่ได้ ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจนถึงสิ้นเดือนนี้ ขณะเดียวกันก็เห็นด้วย ที่จะเดินหน้าเปิดภาคเรียนแบบ 100% เพื่อนักเรียนจะไม่ได้เสียโอกาส แต่แนะนำให้ผู้ปกครองนำเด็กไปฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19
ส่วนการจัดซื้อยาโมลนูลพิลาเวีย ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องเร่งสั่งซื้อ โดยหากซื้อจากประเทศอินเดียจะลดเหลือเพียงคอสละ 800 บาทเท่านั้น ขณะเดียวกันยาแพกซ์โลวิค ที่ต้องสั่งซื้อจากบริษัทแอสตร้าเซนิก้า เห็นว่าควรที่จะมีการปรับจากการซื้อวัคซีนมาเป็นการซื้อยาแพกซ์โลวิดแทน
คลิปอีจันแนะนำ
แอนนา เปิดใจครั้งแรก! ตอบทุกประเด็น! #คดีปริญญ์