จากกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินมาฉีดพ่นสเปรย์แอลกอฮอล์ ใส่สื่อมวลชนที่นั่งแถวหน้า ในการทำข่าวแถลงหลังการประชุม ครม. เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ย้อนถามสื่อมวลชนถึงระดับการศึกษา และพาดพิงถึงสถาบันการศึกษา ต่อกรณีการเลือกบุคคลโควตาพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นคนนอกมารับตำแหน่งรัฐมนตรี โดยทั้ง 2 กรณีดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กับ รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอโทษแล้วนั้น
ล่าสุด นายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และนายสุปัน รักเชื้อ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ร่วมกันเปิดเผยว่า ฝ่ายสิทธิเสรีภาพทั้งสองสมาคมนักข่าวฯ เฝ้าติดตามสถานการณ์การคุกคามสื่อมวลชน ซึ่งได้รับฟังข้อคิดเห็นและเสียงสะท้อนอย่างรอบด้าน
จึงเห็นว่าทั้งสองกรณี สื่อมวลชนปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ตั้งคำถามแทนประชาชนตามหลักวิชาชีพ และตามสิทธิเสรีภาพของรัฐธรรมนูญ ซึ่งผู้ถูกตั้งคำถามมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธตอบคำถามนั้น ๆ ได้ แต่ทว่าสื่อมวลชนกลับถูกกระทำโดยใช้วาจาที่ไม่เหมาะสม ถือเป็นการเพิ่มประเด็นความขัดแย้งในสังคม
ทั้งนี้อาจมองได้ถึงการไม่เคารพและไม่ให้เกียรติซึ่งกันและกันในการทำหน้าที่สื่อมวลชน ดังนั้นผู้นำรัฐบาลซึ่งเป็นผู้มีอำนาจกำหนดนโยบายที่มีผลกระทบต่อประชาชน ควรเป็นแบบอย่างให้กับสังคม ซึ่งต้องพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ และควรระมัดระวังการแสดงพฤติกรรม และการใช้วาจาเรื่องการให้เกียรติและเคารพศักดิ์ศรีในการทำหน้าที่ซึ่งกันและกัน
