22 ก.พ.65) ผู้สื่อข่าวอีจันรายงานว่า เจ้าหน้าที่กรมการจัดหางาน, เจ้าหน้าที่สาธารณสุข, เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดสระแก้ว ได้ร่วมรับตัวแรงงานต่างด้าว ชาวกัมพูชา ที่จะเข้ามาทำงานกับผู้ประกอบการในไทย ตามข้อตกลง MOU ครั้งที่ 4 ณ ด่านถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตั้งแต่เมื่อ 21 ก.พ. 65 โดยมีทางเจ้าหน้าที่กัมพูชาเป็นผู้นำแรงงานกลุ่มดังกล่าวมาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยผ่านทางสะพานมิตรภาพไทย -กัมพูชา อ.อรัญประเทศ
ทั้งนี้ สำหรับแรงงานชาวกัมพูชาเหล่านี้จะเข้ามาทำงานที่บริษัทเอกชน 3 แห่ง ประกอบด้วย
บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จ.นครราชสีมา จำนวน 144 คน
บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จ.สระบุรีจำนวน 60
บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีนบุรี จำนวน 23 คน
รวมแรงงานชาวกัมพูชาเดินทางเข้าทำงาน จำนวน 227 คน เป็นชาย 130 คน และหญิง 97 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การนำเข้าแรงงานตาม MOU ครั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาได้เข้มงวดในการตรวจสอบเอกสาร และการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนข้ามแดนมายังฝั่งประเทศไทย อย่างเข้มงวด
หลังจากนั้นฝั่งไทยจะมีการตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจเอกสารตามขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง และนำแรงงานไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยรถโมบายตรวจหาเชื้่อชีวนิรภัยอีกครั้ง หลังเสร็จขั้นตอนต่าง ๆ ได้นำแรงงานชาวกัมพูชาที่ผ่านการตรวจแล้ว จำนวน 149 คน ไปกักตัวที่ศูนย์ Organization Quarantine(OQ) ยังสถานที่ที่กำหนดไว้
เนื่องจากการนำเข้าแรงงานครั้งก่อน พบผู้ติดเชื้อ จำนวนกว่า 30 ราย
ทางด้าน นายวีรเดช พลสวัสดิ์ จนท.กรมจัดหางานจังหวัดมุกดาหาร รักษาราชการแทนจัดหางานจังหวัดสระแก้ว เผยว่า สำหรับการนำเข้าแรงงานกัมพูชาตามข้อตกลง MOU ครั้งที่ 4 หลังเกิดปัญหาแรงงานชาวกัมพูชาติดเชื้อจำนวนมาก จึงได้เพิ่มมาตรการป้องกันการนำเชื้อเข้ามาในประเทศ โดยนำรถโมบายฯ ไปตรวจหาเชื้อด้วยระบบ ATK กับแรงงานกัมพูชาทุกคนก่อนเดินทางเข้าสู่ขั้นตอนที่ 1
หากพบเชื้อจะมีการผลักดันออกไปก่อน ซึ่งจากการตรวจแรงงานกัมพูชาเมื่อวานนี้ พบผู้ติดเชื้อโควิด 8 ราย ซึ่งได้ส่งให้กลับไปรักษาก่อนเดินทางเข้าประเทศ
ทั้งนี้ จะมีมาตรการเข้มงวดในครั้งต่อๆไปด้วย เพื่อไม่ให้มีการตรวจพบเชื้อภายหลังเข้าประเทศไทยมาแล้ว
คลิปแนะนำอีจัน
จากทางเลือก…สู่ทางรอด #อเดลล่า