วันนี้(21 มิ.ย. 65) นายประยุทธ์ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 จังหวัดระยอง ว่า นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี บิดาของนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาในคดีการมีส่วนร่วมบุกรุกที่ดินป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี เมื่อปี 2545 ต่อมาถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำ ซื้อรักษาทรัพยากรโดยใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริตอันเป็นการเสียหายแก่รัฐ มาตรา 151 ซึ่งปัจจุบันถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ได้ออกหมายจับฉบับที่ 2 หลังไม่เดินทางเข้ารายงานตัวต่อพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 2 จังหวัดระยอง เพื่อให้นำตัวยื่นฟ้องคดีต่อศาลฯ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา ตามนัดหมาย
โดย นายสุนทร วิลาวัลย์ ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจตามหมายจับแล้ว จากนั้น เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ บก.ปปป.ตร. ร่วมดำเนินการ พาไปทำบันทึกการจับกุมและลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองระยอง
ขั้นตอนหลังจากนี้ในส่วนของอัยการ ได้รับแจ้งจาก นายพิจิตร จูฑะประชากุล อธิบดีอัยการสำนักงานปราบปรามการทุจริตภาค 2 ยืนยันว่า อัยการได้ เตรียมคำฟ้องไว้แล้ว หากนำตัวนานสุนทรส่งมา ก็จะส่งฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ทันที
กรณีคดีขาดอายุความหรือไม่นั้น ณ เวลานี้ ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ออกหมายจับ ตามคำร้อง ป.ป.ช ว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 7 คือ ไม่นับรวมในอายุความกรณีผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนี ดังนั้น เมื่อศาลออกหมายจับไว้ ในชั้นนี้ ต้องดำเนินการตามที่ศาลออกหมายจับ