จากกรณีที่ พิมรี่พาย เข้าแจ้งความต่อ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เรื่องที่มีการปลอมแปลงเอกสารเข้าสมัครงาน ในคลีนิกเสริมความงามของตนเองนั้น โดยมี “หมอหยก” นางสาวปิยนุช รัตนโกเศศ เป็นผู้เสียหายในคดีดังกล่าว
พิมรี่พาย แจ้งความ ปคบ. หลัง พบแพทย์ปลอมทำงานที่คลินิก
วันนี้ 18 ธ.ค.64 นางสาวปิยนุช รัตนโกเศศ หรือ หมอหยก โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ขอพูดในฐานะผู้เสียหาย สืบเนื่องมาจากการไลฟ์ ของคุณพิมรี่พายเมื่อวานนี้ (17 ธ.ค.64) ตนรู้สึกไม่สบายใจ กับการที่ถูกเอาเอกสารข้อมูลส่วนตัว มาเผยแพร่โดยไม่ขออนุญาต เพราะ จะต้องขอให้ปกปิดข้อมูลส่วนตัวก่อน ซึ่งเมื่อไม่ได้ปิดข้อมูล ทำให้มีนักข่าวได้ข้อมูลจากตรงนี้และไปรบกวนพ่อแม่ที่บ้าน อีกทั้งยังไปรบกวนที่คลินิคเก่า ซึ่งตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนไม่เคยได้รับการติดต่อจาก คุณพิมรี่พาย หรือ est cute clinic แต่อย่างใด หากจะอ้างว่าติดต่อตนไม่ได้ ก็ไม่ใช่ เพราะ ตนมีช่องทางให้ติดต่อ และใช้ชี้แจงตามที่สื่อต่างๆได้แจ้งไว้ ถ้าถามว่าตนต้องการอะไร เพราะพิมรี่พายก็ได้ขอโทษ ผ่านสื่อ แล้ว แต่ตนก็หวังจะเห็นการแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจ จากทางคลินิกและทางคุณพิมรี่พาย
หมอหยก กล่าวอีกว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าในฐานะ ผู้ประกอบการวิชาชีพทางการแพทย์ เจ้าของคลินิก และผู้มีใบอนุญาตประจำคลินิก ต้องมีหน้าที่ตรวจสอบคัดกรอง คนที่เข้ามาทำงานในคลีนิคของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพทย์ ต้องตรวจอย่างละเอียดถี่ถ้วน ไม่ใช่เพียงแค่อ้างว่าใส่หน้ากากอนามัย แล้วทำให้ไม่เห็นหน้าตา หรือเชื่อถือเพียงแค่เอกสารไม่กี่แผ่น โชคดีที่ครั้งนี้ มีคนทราบก่อนว่าเป็นหมอปลอม ทำให้ไม่มีคนไข้ได้รับอันตรายถ้าหากได้รับการฉีดไปแล้ว ซึ่งผลข้างเคียงจะมีตั้งแต่อาการปวดบวมเล็กน้อย จนถึงเข้าเส้นเลือด, ทำให้ผิวหนังไม่มีเลือดมาเลี้ยง, ตาบอด ฯลฯ
อยากให้ลองคิดตาม หากมีใครเป็นอะไรขึ้นมา แล้วสังคมเข้าใจว่าตนเป็นคนทำ ตนจะมีที่ยืนในสังคมได้อย่างไร ความน่าเชื่อถือและสิ่งที่สะสมมา การพิสูจน์ตัวตนเข้าทำงานในอนาคต ก็กระทบหมดเลย ตอนที่ตนบอกว่าเป็นหมอตัวจริง แล้วโดนแอบอ้าง ยังมีคนไม่เชื่อ ว่าเราคือตัวจริง ด่าทอด้วยคำพูดหยาบคาย ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้น กระทบต่อชื่อเสียงและจิตใจมาก ขอให้ช่วยเข้าใจหน่อยนะคะ ที่ต้องออกมาโพสต์แบบนี้
คลิปแนะนำอีจัน
พิมรี่พาย เเจ้งความหมอเก๊ ยันรับผิดชอบลูกค้าทุกคน