จากกรณีแม่เฒ่า 4 คน ชาวสุโขทัย นั่งร้องไห้วอนขอให้เจ้าหนี้ใจอ่อนขายบ้านคืน วอนทนายจิตอาสา ช่วยเจรจา เพราะ 17 มิ.ย.นี้ บ้านจะถูกยึด
ซึ่งบ้านหลังดังกล่าว เป็นเรือนไม้ขนาดใหญ่ ใต้ถุนสูง ปลูกบนพื้นที่ 3 งานเศษ สาเหตุที่จะถูกยึดเป็นเพราะหลานชายนำที่ดินไปค้ำประกันเงินกู้ เพื่อไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน แต่ไม่สามารถหาเงินมาชำระคืนเจ้าหนี้ได้
แม่เฒ่า 4 พี่น้อง สุโขทัย น้ำตาตก วอนทนายจิตอาสา ช่วยเจรจา เจ้าหนี้ หลังจะถูกยึดบ้าน 17 มิ.ย.นี้
ด้านนายสมศักดิ์ โตจริง อายุ 49 ปี หลานชายที่นำที่ดินไปจำนองหวังอนาคตที่ดีขึ้น แต่ถูกหลอกกลับมาไม่มีเงินเหลือ แถมเป็นหนี้สินเพิ่มเติม ปัจจุบันทำงานรับจ้างอยู่จังหวัดระยอง และในวันนี้ทำได้เพียงกลับบ้านมาช่วยน้าเก็บของออกจากบ้าน มาเช่าบ้านอยู่ที่บ้านของเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกัน โดยแบ่งเป็น 2 หลัง และยายต้องแยกกันอยู่ ซึ่งทั้ง 4 คนไม่เคยแยกกันอยู่เลย ไม่รู้สภาพจิตใจยายจะรับได้ไหม เรื่องหนี้สินนั้นตัวเองก็เสียใจที่เป็นต้นเหตุ แต่ที่ผ่านมาก็ได้ไปขอไกล่เกลี่ยและใช้ไปบางส่วนแล้ว แต่ก็คืนเจ้าหนี้ได้ไม่หมด เห็นยายเป็นแบบนี้ก็ร้องไห้ทุกวัน ปัจจุบันก็หาเช้ากินค่ำ ลูกตัวเองก็พิการ ตอนนี้อยู่กับภรรยาที่ระยอง และความหวังสุดท้ายวอนขอเมตตา อยากได้ที่อยู่อาศัยคืน ให้แม่แก่ ให้น้า ได้มีที่อยู่อาศัยคืน ได้กินข้าวหม้อเดียวกัน บ้านเดียวกันเหมือน 50 ปีที่ผ่านมา
โดยวานนี้ (14 มิ.ย.64) ด้านนายปรีชา สุทนต์ นายอำเภอศรีสำโรงพร้อมยุติธรรมจังหวัดสุโขทัย และเจ้าหน้าที่สำนักงานบังคับคดี ลงพื้นที่สอบถามและให้คำแนะนำ พร้อมยืนยันว่าจะดำเนินการให้แม่เฒ่าทั้ง 4 คน มีที่อยู่ และกล่าวด้วยความสะเทือนใจว่าในกระบวนการทางกฎหมายดำเนินการไปแล้วเสร็จ แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นค่อนข้างรุนแรง และสะเทือนใจ โดยต้องดูว่าผู้ที่ซื้อไปแล้วจะขายคืนหรือไม่ ซึ่งราคาที่ซื้อไปนั้นถูกมาก ถือเป็นกรณีตัวอย่างไม่อยากให้เกิดกับปู่ย่าตายายแบบนี้ ยาย 4 คนทำกินไม่ได้แล้ว จะอยู่อย่างไร แต่จะไม่ย้อนกลับไปดู และจะเดินหน้าแก้ไขและหาทางช่วยถึงที่สุด พร้อมนำถุงยังชีพจากกิ่งกาชาดอำเภอศรีสำโรงมามอบให้แม่เฒ่าทั้ง 4 เพื่อเป็นกำลังใจในเบื้องต้น
