หากเลิกสูบบุหรี่จะสามารถประหยัดน้ำได้มากถึง 74 ลิตรต่อวัน

รองศาสตราจารย์ มหาวิทยาลัยมหิดล เผย หากคนสูบบุหรี่ปกติ เลิกสูบบุหรี่จะสามารถประหยัดน้ำได้มากถึง 74 ลิตรต่อวัน

เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และ องค์กรอนามัยโลกประจำประเทศไทย ได้จัดแถลงข่าว และจัดงานสัมนาภาคีเครือข่ายขึ้น เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 65 เพื่อสร้างเข้าใจ ถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากผลิตภัณฑ์ยาสูบ

WHO เผย! บุหรี่ ทำลายสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก

รองศาสตราจารย์ เนาวรัตน์ เจริญค้า ภาควิชาวิศวกรรมสุขาภิบาล คณะสาธารณสุข มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า

ในขั้นตอนการเพาะปลูกยาสูบเพียงอย่างเดียวต้องใช้น้ำ ในปริมาณเท่ากับคนหนึ่งคนใช้น้ำตลอดทั้งปี วงจรของบุหรี่หนึ่งมวน ตั้งแต่การปลูก การผลิตการกระจายผลิตภัณฑ์ การใช้การกำจัด ต้องใช้น้ำประมาณ 3.7 ลิตร ดังนั้นหากผู้สูบบุหรี่ปกติทั่วไปเลิกบุหรี่จะสามารถประหยัดน้ำได้มากถึง 74 ลิตรต่อวัน

นอกจากนี้ การผลิตยาสูบทำให้เกิดการปล่อยคาร์บอนไดออกไชด์เกือบ 84 ล้านเมตริกตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการ

ปล่อยจรวด 280,000 ลำ สู่อวกาศ


ควันบุหรี่มีส่วนทำให้ระดับมลพิษทางอากาศสูงขึ้น และประกอบไปด้วยก๊าซเรือนกระจก

3 ชนิด ได้แก่

-คาร์บอนไดออกไซด์

-มีเทน

-ไนตรัสออกไซด์

ซึ่งสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมทั้งภายในอาคารและกลางแจ้ง


นอกจากนี้ ไร่ยาสูบยังทำลายสุขภาพของเด็ก โดยปกติแรงงานเด็กในไร่ยาสูบมีความเสี่ยงเป็นพิเศษ เนื่องจากน้ำหนักตัวเด็ก กับสัดส่วนของนิโคติน ที่ดูดซึมผ่านผิวหนังจากการสัมผัสกับใบยาสูบ ทำให้อาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไตเรื้อรังระยะที่ 1 เพิ่มขึ้น

ส่วนผู้หญิงที่ทำไร่ยาสูบ จะได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากอันตรายของการทำไร่ยาสูบในสัดส่วนที่แตกต่างกัน โดยส่งผลให้เกิดความเสี่ยงสูงขึ้นของภาระการมีบุตรยากและปัญหาด้านการเจริญพันธุ์

บุหรี่เป็นภัยตั้งแต่คนปลูกไปจนถึงคนสูบและคนใกล้ตัวเลยนะคะ อันตรายแบบนี้เลิกได้เลิกเถอะค่ะ เพื่อตัวคุณเองและคนรอบข้าง

คลปอีจันแนะนำ
ภัยจากบุหรี่ ร้ายแรงกว่าที่คิด 31พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก