จากกรณีที่ นายไพบูลย์ เป้าชุมแสง โชเฟอร์สิบล้อ บริษัทส่งสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 เมื่อปี 2560 ได้เงิน 18 ล้านบาท พลิกชีวิตเป็นเศรษฐีคนใหม่ในพริบตา ผ่านมา 5 ปี เงินหมด เพราะไปลงทุนเปิดร้านขายส่งโชห่วยแต่เจ๊ง เพราะไม่มีคนซื้อ ซ้ำเจอพิษโควิด ต้องปิดกิจการนั้น
ล่าสุด (2 เม.ย. 65) นายไพบูลย์ เปิดเผยว่า หลังจากถูกรางวัลที่ 1 ตนได้ลาออกจากงานมาลงทุนค้าขาย และซื้อที่ดิน 20 ไร่ ราคา 4 ล้านบาท รวมถึงสร้างบ้าน 5 หลังรวมทั้งหมด 3 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้เปิดเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง เปิดร้านค้าส่งสินค้าโชห่วย 2 ร้าน พร้อมโกดังลงทุน 3 ล้านบาท ซื้อรถกระบะ 5 คัน 3.7 ล้านบาท เพื่อวิ่งส่งสินค้า
อรถดัมพ์สิบล้อ 1 คันราคา 1 ล้านบาท ซื้อรถไถ 2 คันรวม 1 ล้านบาท
ทั้งหมด ตนซื้อเงินสดรวมแล้วกว่า 16 ล้านบาท
และยังมีชาวบ้านเอาที่ดินมาจำนองประมาณ 20 ไร่ แต่ไม่มาไถ่ถอนให้ญาติพี่น้องเล็กน้อย ซึ่งผ่านมา 5 ปีแล้ว ร้านค้าส่งและวัสดุก่อสร้างขายไม่ดี จึงต้องยุบเป็นร้านค้าปลีกของชำเล็กๆ ส่วนเงินสดที่เหลือนำมาหมุนเวียนค้าขาย และยังซื้อลอตเตอรี่เสี่ยงโชคงวดละ 4-5 หมื่นบาท
“ผ่านมา 5 ปี ยังทำงานเหมือนเดิม นำเงินรางวัลมาลงทุนแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเพราะไม่มีคนซื้อ ซ้ำมาเจอโควิด เศรษฐกิจไม่ดี จำเป็นต้องเลิกกิจการไป พอมาเปิดขายของชำเล็กๆ และซื้อรถบรรทุกมาขับรับถมดิน ก็ไม่มีงานจ้างต้องจอดทิ้งไว้ ส่วนชาวบ้านนำโฉนดที่ดินมาจำนองกว่า 20 ไร่ ก็ไม่มาไถ่ถอน บอกได้เลยว่าเงินถูกหวย 18 ล้านหมดแล้ว เหลือแต่ทรัพย์สิน ที่ดิน บ้าน รถ ที่ซื้อไว้เท่านั้น ส่วนเงินสดไม่มีแล้ว” นายไพบูลย์ กล่าว
ตนยอมรับว่านำเงินมาลงทุนทำธุรกิจผิดพลาด และไม่มีประสบการณ์ ไม่มีการวางแผนการบริหารจัดการ เพราะตนจบแค่ ป.6 ระบบคอมพิวเตอร์ก็ทำไม่เป็น ลูกก็ไม่สนใจ ทำให้กิจการเจ๊งไปประมาณ 6-7 ล้านบาท
แต่ตนเป็นคนชอบทำงานไม่นั่งอยู่เฉย ก็หันมาเปิดร้านขายของชำ 2 ร้าน ให้ภรรยาและลูกสาวดูแล ส่วนตนก็ไปทำไร่ ทำนา เผาถ่านขาย ถ้ามีคนมาจ้างถมดินก็ขับรถดัมพ์เอง ส่วนรถไถก็เอาไว้ทำไร่ทำนา ถ้าเปรียบเทียบระหว่างก่อนถูกหวยกับถูกหวยแล้วถือว่าไม่แตกต่างกัน เรียกง่ายๆ ว่าเงินสดที่ถูกหวยนั้นหมดแล้ว แต่มีทรัพย์สินมากขึ้นเท่านั้น
คลิปอีจัน แนะนำ