กรณีของ อดีต ผกก.โจ้ หรือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรตำรวจนครสวรรค์ และพวก รวม 7 คน ก่อเหตุใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติด จนเสียชีวิต โดยอ้างว่าเป็นการกระทำเพื่อเค้นข้อมูลสืบสวน แต่พลั้งมือ เหตุเกิดเมื่อ 5 ส.ค. 2564 ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์
คดีนี้ พนักงานสอบสวน ลงความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 7 คน 4 ข้อหา และได้สรุปสำนวน โดยจะส่งสำนวนสั่งฟ้อง อดีต ผกก.โจ้ และพวก ให้อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ในช่วงบ่ายวันนี้ (3 พ.ย. 64)
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. ได้นำแฟ้มสำนวนคดีของ อดีต ผกก.โจ้ จำนวน 7 แฟ้ม เอกสารทั้งหมด 2,540 หน้า มาส่งให้กับอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต
หลังส่งมอบแฟ้มสำนวนคดี นายอิทธิพร แก้วทิพย์ อธิบดีอัยการ สนง.คดีอาญา โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดถูกควบคุมและฝากขังไว้ตามคำสั่งศาลอาญาคดีทุจริตและพฤติมิชอบกลาง โดยผู้ต้องหา 2 ราย จะครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 6 ในวันที่ 6 พ.ย. 64 ส่วนอีก 5 ราย จะครบกำหนดฝากขังครั้งที่ 6 ในวันที่ 5 พ.ย. 64
ซึ่งตามกำหนดสามารถฝากขังได้ 7 ครั้ง แต่ละครั้งไม่เกิน 12 วัน ดังนั้นเท่ากับว่าเรามีเวลาฝากครั้งได้อีก 1 ครั้ง ซึ่งถ้าหากภายในวันที่ 5 พ.ย. 64 ทางสำนักงานอัยการคดีสูงสุด ไม่สามารถพิจารณาสำนวนคดีได้ทัน ก็จะมีการฝากขังเพิ่มเติมเป็นครั้งที่ 7 เมื่อนับแล้วเท่ากับว่า ทางสำนักงานอัยการสูงสุดมีระยะเวลาในการพิจารณาสำนวนเหลืออีกเพียง 14 วันเท่านั้น ทุกอย่างจะต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 17 พ.ย. 64 เพื่อนำสำนวนคดีส่งฟ้องศาลต่อไป
แต่ถ้าหากมีความเห็นคดีไม่ทันตามกำหนดระยะเวลา ตามกฎหมาย ระบุเอาไว้ว่า ต้องปล่อยตัวผู้ถูกกล่าวหา และเมื่อมีความเห็นสั่งคดีได้เมื่อไหร่นั้น ก็ให้นำตัวผู้ต้องหา มาส่งฟ้องได้ในภายหลัง
ด้าน นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า สำหรับแฟ้มสำนวนคดีที่ทางตำรวจนำมามอบให้กับสำนักงานอัยการสูงสุด แบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนแรก เป็นในส่วนของข้อกล่าวหาที่ตำรวจสั่งฟ้อง อดีต ผกก.โจ้ และพวก
ขณะที่ส่วนที่ 2 เป็น สำนวนการไต่สวนชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต ที่อยู่ระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของอัยการจังหวัดนครสวรรค์ และสำนวนนั้น จะถูกนำมารวมไว้กับสำนวนคดีที่ส่งฟ้อง
ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้จะมีการแต่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลสำนวนคดี และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดลงความเห็นชี้ขาดว่าสั่งฟ้องหรือไม่
สำหรับระยะเวลาที่เหลือในการพิจารณาสำนวนคดีนั้น ยืนยันว่า สำนักงานอัยการสูงสุด สามารถพิจารณาสำนวนคดีได้ทันภายในวันที่ 17 พ.ย. 64 แน่นอน ซึ่งก็เป็นไปตามกำหนดของการพิจารณาคดีเพื่อนำส่งฟ้องต่อศาล
“สำนวนคดีนี้ไม่ได้มีความซับซ้อน เป็นอาชญากรรมพื้นฐานธรรมดา ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าทางสำนักงานอัยการสูงสุดจะพิจารณาคดีไม่ทัน ยืนยันว่าทุกอย่างจะจบในวันที่ 17 พ.ย. 64 เพราะเป็นกำหนดระยะเวลาตามกฎหมายอยู่แล้ว” นายประยุทธ เพชรคุณ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.สุวัฒน์ ยืนยันว่า คดีนี้พนักงานสอบสวน ทำงานประสานข้อมูลกับอัยการมาโดยตลอด ดังนั้น การสอบสวนจึงเป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดอย่างแน่นอน
คลิปแนะนำอีจัน
อายัดทรัพย์ อดีต ผกก.โจ้