เจาะเเผนสืบ คดีฆ่าหั่นศพ เเยก 8 ชิ้นส่วน เผาอำพราง : จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

แกะจากลายนิ้วมือศพ ไขปริศนา หามือฆ่าหั่นศพ : จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

คดี ฆ่า หั่น ศพ เผา อำพราง ที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นคดีที่สร้างความสะเทือนขวัญอย่างมาก

ศพถูกหั่นเเยกชิ้นส่วนถึง 8 ชิ้น เเยกทิ้งหลายจุด

คดีนี้เริ่มขึ้นช่วงเช้า วันที่ 1 มี.ค.64 เมื่อคนงานโรงงานอิฐบล็อก เจอชิ้นส่วนลำตัวมนุษย์ถูกเผา อยู่ในพงหญ้า ต.ชะแมบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

ชิ้นส่วนที่พบ มีเพียงลำตัว ที่เพิ่งถูกเผาไม่นาน ยังไม่ผิดรูปทรง สภาพศพยังไม่เน่าเปื่อย เหมือนเพิ่งเสียชีวิตไม่นาน

เเต่ไร้ศีรษะ ไร้เเขน เเละ ขา

ประเมินเเล้ว ผู้ก่อเหตุ น่าจะไม่มีความชำนาญ

แต่ก่อนอื่น ต้องหาให้ได้ว่า ผู้ตายคือใคร ?

ชุดสืบสวนเริ่มสืบด้วยการหาข้อมูลคนหายในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

แต่…ไม่มีข้อมูลการรับเเจ้งความคนหายในห้วงเวลานั้น

ทำให้ข้อมูลในตอนนั้น เลือนลางเหลือเกิน เพราะหลักฐานที่พบ ยังไม่สามารถระบุตัวตนผู้ตายได้ในทันที

เเต่ฟ้าเข้าข้าง

ในวันเดียวกัน หลังข่าวเจอลำตัวมนุษย์ถูกนำเสนอหลายสำนัก

ก็มี คนขายโรตีสายไหมใน อ.บางปะอิน เเจ้งความ พบชิ้นส่วนมนุษย์ ถูกเผา ริมถนนสาย 347 บางปะอิน

จุดนี้ พบ เเขน-ขามนุษย์ ถูกหั่นเเยกเป็น 6 ชิ้น

เป็น เเขนท่อนบน 2 ข้าง

เเขนท่อนล่างจนถึงมือ 2 ข้าง

เเละขาท่อนล่างจนถึงเท้า 2 ข้าง

ลักษณะการถูกทำลาย ถูกเผาลักษณะเดียวกับลำตัวมนุษย์ที่พบ

เป็นไปได้ว่า ชิ้นส่วนที่พบใหม่นั้น เป็นชิ้นส่วนมนุษย์คนเดียวกัน

ตำรวจ จึงให้ทีมกู้ภัย เก็บลายนิ้วมือผู้ตายส่งไปพิสูจน์หาข้อมูลบุคคล

วันที่ 2 มีนาคม 2564

คดีนี้ค่อนข้างยาก พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.น.1 จึงเรียก 7 ชุดสืบ ที่เคยสืบคดีใหญ่สำเร็จ มารวมตัวกัน ประชุมทีมเพื่อเเบ่งงานสืบทั้งภาคพื้นดิน ภาคอากาศ ภาคเทคโนโลยี

จังหวะดี วันนั้นผลพิสูจน์ลายนิ้วมือ ของผู้ตาย ออกพอดี

คดีนี้จึงเริ่มเห็นทางสว่าง

จากการตรวจสอบลายนิ้วมือ ปรากฎข้อมูล ผู้ตายเป็นชาย อายุ 54 ปี ชื่อว่า สุบิน เขาอาศัยอยู่ใน จังหวัด นนทบุรี

เขามีภรรยา เเละ ลูก 2 คน

ชุดสืบสวนจึงตรงไปยังบ้านที่ นายสุบิน อาศัยอยู่ในพื้นที่ จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านของภรรยา

แต่…ไม่พบใคร บ้านถูกปิดเงียบ

ติดต่อหาภรรยา ของนายสุบิน ก็ไร้การตอบรับ

ตำรวจเริ่มสงสัย จึงออกตามหาข้อมูล

เเละพบว่า นายสุบิน เเละ ภรรยา ทะเลาะกันเป็นประจำ ทำให้ภรรยา ชอบหนีไปอยู่อพาร์ทเมนต์เเห่งหนึ่ง

ตำรวจจึงติดตามหาภรรยา ของนายสุบิน จนเจอซึ่งขณะนั้น เธออยู่กับหลานชาย ตำรวจจึงเชิญทั้งคู่มาให้ปากคำ ในฐานะ “พยาน”

ในคืนวันที่ 2 มีนาคม 2564

ขณะเดียวกัน ตำรวจชุดสืบ เช็กกล้องวงจรปิดใกล้เคียง พื้นที่พบชิ้นส่วน

เจอภาพรถต้องสงสัยคันหนึ่ง ขับผ่านจุดทิ้งชิ้นส่วน

ซึ่งรถคันดังกล่าว สืบสวนต่อพบว่า เป็นรถของ นายสุบิน เหยื่อที่ถูกหั่นศพ

เเล้วใครเป็นคนขับรถคันนี้ ?

เมื่อติดตามหารถของ นายสุบิน พบว่า รถถูกจอดทิ้งไว้หน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ห่างจากบ้านภรรยา เพียง 500 เมตร

ด้านการสอบปากคำ

ตำรวจเชิญ ภรรยา นายสุบิน เเละ นายเมฆ หลานชายของ ภรรยา มาที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1

สอบปากคำเพียงนิด ก็พบพิรุธบางอย่าง จากการให้ข้อมูลของทั้งคู่

ตำรวจจึงสอบปากคำเขาเเละเธอไปเรื่อยๆ

จนสุดท้าย พิรุธ เก็บไม่อยู่ ภรรยา ยอมคลายความจริง

เธอ คือเบื้องหลัง การ ฆ่า หั่น ศพนายสุบิน สามีของตัวเอง

โดยอ้างว่า ไม่ได้ตั้งใจ

ความจริงปรากฏ

เธอ ยอมสารภาพสิ้น ถึงเบื้องหลังการฆ่าโหดสามีของตัวเอง โดยมี เมฆ หลานชาย เป็นผู้ร่วมก่อเหตุ

ภรรยา พรั่งพรู ความรู้สึกที่เก็บไว้ออกมาจนหมด มันคือความทุกข์ที่เธอมันสะสมมานานกว่า 20 ปี สามี ชอบทำร้ายร่างกายเธอ เป็นประจำ

เธอ เคยไล่สามีออกจากบ้าน เเต่สุดท้ายเขาก็กลับมา แต่เธอก็ยอมให้เขากลับมา เพราะมีลูกด้วยกันถึง 2 คน

สามีเธอ เคยทำธุรกิจก่อสร้าง

เเต่ธุรกิจนั้นเจ๊งไม่เป็นท่า ยิ่งทำให้คนโมโหร้ายอย่างเขาทวีคูณขึ้น

เขาจึงกลายเป็นคนขี้เมา

เหตุการณ์เกิดขึ้น ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564

วันนั้น เธอ ทะเลาะกับ สามี ก่อนจะออกจากบ้านไปหาญาติ เเละได้เล่าให้ เมฆ หลานชาย ฟังถึงเรื่องที่เธอโดนสามีทำร้ายอีกเเล้ว

เเละขอให้ เมฆ มาช่วยไล่ นายสุบิน ออกจากบ้านไปซะที

คำสารภาพของ เมฆ หลานชายภรรยา

เมฆ เล่าว่า ตัวเอง เตรียมสปาต้า มาด้วย ตั้งใจเอามาแค่ขู่ให้ นายสุบิน กลัว เเละออกจากบ้านไป

เเต่ไม่เป็นอย่างที่คิด

เมื่อ นายสุบิน กลับมา เมฆ ใช้มีดขู่ไล่เขาออกจากบ้าน เเต่ นายสุบิน ไม่กลัว

ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนเเรง ถึงขั้นชกต่อยกัน

เมฆบอก โมโหที่ถูกต่อย จึงใช้มีดแทงเข้าไปที่ราวนมของ นายสุบิน

เขาล้มลง เเละเสียชีวิต

ภรรยา บอกกับตำรวจว่า เธอ ไม่ได้ตั้งใจให้ นายสุบิน ตาย

ตอนนั้น เธอ และ หลาน ตกใจมาก

จึงช่วยกันคิดหาวิธี ทำอย่างไรไม่ให้ตำรวจรู้

ทั้งคู่ตกลงกัน ย่อยชิ้นส่วน นายสุบิน เอาไปเผาทิ้ง

โดยหลานเป็นผู้ลากศพ นายสุบิน เข้าไปชำแหละใน ห้องน้ำ

เเละให้เธอ ออกไปซื้อ เชือก เเละ ถุงดำ รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้ในเหตุนี้

หลังจากนั้น ภรรยา เเละ หลาน ช่วยกันเอาชิ้นส่วน นายสุบิน ใส่ถุงดำ ขนขึ้นหลังรถกระบะ IZUZU สีขาว ของนายสุบิน

เเละเข้ามาช่วยกันทำความสะอาดบ้าน

ก่อนจะขับรถนายสุบินไป จังหวัดอยุธยา เพื่อหาที่ทิ้งชิ้นส่วน

ซึ่งแต่ละจุด ไม่ได้เตรียมการ หรือดูพื้นที่มาก่อน จุดไหนมืด ไม่ค่อยมีรถ ก็เลือกจุดนั้นเป็นที่ทิ้งชิ้นส่วน

คำสารภาพของทั้งคู่ ตำรวจพิสูจน์ทราบเเล้วว่าเป็นเรื่องจริง

ปิดคดี ฆ่าหั่นศพทิ้งริมถนนอยุธยา

เบื้องต้นตำรวจเเจ้งข้อหา ภรรยา เเละ หลาน 2 ข้อหา

– ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว่ก่อน

– ร่วมกันปิดบัง ทำลาย ซ่อนเร้นอำพรางศพ

อีจันขอเเสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยนะคะ