เปิดข้อมูลน่ารู้ เลี้ยงลูกด้วยจอ เสี่ยงสมาธิสั้น – พัฒนาการช้า

รักหนูอย่าทำร้ายหนู! อุทาหรณ์ เลี้ยงลูกให้ติดจอ อันตรายที่พ่อแม่อาจคาดไม่ถึง สมาธิสั้น – พัฒนาการช้า

หากย้อนกลับไปในยุคที่ยังไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย หรือก้าวหน้ามากนัก และอินเทอร์เน็ต ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ทำให้การเลี้ยงลูกในสมัยก่อน ก็เป็นวิธีแบบบ้านๆ เล่นกับเพื่อนข้างบ้าน กระโดดหนังยาง เป็นต้น

แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป การเลี้ยงลูกของคุณแม่หลายๆ ท่าน ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เพราะสมัยนี้การเปิดอินเทอร์เน็ตหาข้อมูลดีๆ ในการเลี้ยงดูลูกก็ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว บางครอบครัวมี ทีวี ไอแพด แท็บเล็ต เป็นเพื่อนลูก

ซึ่งวิธีนี้เคยมีนักวิชาการออกมาเตือนว่าเป็นวิธีที่มีผลเสียตามมามากมาย

ประเด็นดังกล่าว แท้จริงแล้วถูกพูดถึงมาเนิ่นนาน โดยเพจเฟซบุ๊ก Mother and Child Channel ได้ออกมาให้ข้อมูลความรู้ โดยยกตัวอย่างจากที่ผู้ใหญ่เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เคยโพสต์ภาพเด็กดูทีวี พร้แมเล่าเรื่องราวการเลี้ยงลูกด้วยเทคโนโลยีเอาไว้ว่

“รักหนู อย่าทำร้ายหนู“ ภาพนี้น้องไม่ได้ดูจริงค่ะ คุณแม่พยายามทำให้ได้รูปนี้มา เราเชื่อว่าคุณแม่ทุกคนให้ทีวี ไอแพด แท็บเล็ตเป็นเพื่อนลูก เพราะเวลาหน้าที่ แต่คุณแม่รู้ไหมว่า มันคือการทำร้ายลูกระยะยาว

เราเจอมากับตัว น้องสาวคนเล็ก ซื้อซีดีสอนเอบีซี ก ข ค สารพัด เพื่อให้น้องดู หวังดีอยากให้มีพัฒนาการที่ดี แต่ผลระยะยาวคือ เราทำร้ายเขาตลอดมา น้องเป็นสมาธิสั้น แอลดี พัฒนาการทางการเรียนช้า แต่ในมุมของคนภายนอกน้องเป็นเด็กเก่ง ฉลาด ฉอเลาะ กล้าพูด กล้าคิดกล้าแสดงออก และเป็นเด็กเก่ง แต่ในมุมอีกมุม เขาเป็นเด็กพิเศษ !!!

เราทราบอาการเขาตอน 4 ขวบ ถ้าจำไม่ผิด หลังจากเข้าเรียน เพราะเราดูพัฒนาการเรื่องเรียนของเขาช้า ถึงขั้นไม่ได้เลย แต่ร้องเพลงจำเนื้อได้ทั้งเพลง ประวัติเทพเจ้าอินเดีย น้องรู้เกือบหมดทุกพระองค์ ใครจะคิดว่าทั้งเก่งทั้งฉลาด จะเป็นสมาธิสั้น และ แอลดี

เราอ่านบทความเจออาการของเด็กคนหนึ่ง สอดคล้องกับน้องไม่มีผิดเพี้ยน จึงตัดสินใจพาไปพบแพทย์ แพทย์ระบุแบบที่เราคิด น้องมีพัฒนาการช้า IQ ต่ำ EQ สูง ส่วนหนึ่งมาจากสมาธิสั้น ไม่สามารถเก็บรายละเอียดได้ในสิ่งที่เขาไม่รัก ไม่สนใจ เหตุก็เกิดจากการดูทีวี ทีวีมีภาพเคลื่อนไหวเฉลี่ย 3 วินาที / 1 เฟรม

น้องเป็นเด็กเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจ เพราะทีวี ไอแพด แทบเล็ต เราสั่งได้ เบื่อก็เปลี่ยน จนถึงกับบางคนมีนิสัยก้าวร้าว เทคโนโลยีล้ำสมัยแต่อันตรายก็แฝงมาด้วยเช่นกัน

ดังนั้น อย่ามองว่าลูกไม่เห็นเป็นอะไร เพราะอาการมันไม่เด่นชัด และคุณแม่คุณพ่อบางคนก็ไม่ยอมรับว่าลูกเป็น จึงไม่มีการพาไปพบแพทย์ เด็กๆ ไม่ได้มีสภาวะจิตไม่ปกติหรือเป็นเอ๋อค่ะ แต่เราต้องให้พบแพทย์เพื่อรักษา เพราะมันมีผลระยะยาว โอกาสหายมีค่ะ ถ้ารู้เร็ว

รักหนู อย่าทำร้ายหนูนะคะ ^_^

คลิปแนะนำอีจัน
หวยแพง…จะแก้ได้ยัง? ค้นรอบ 2 กองสลากพลัส