หลายคนกุมขมับ กับเรื่องราวสุดอลเวงนี้ ศพหายหรือท้องทิพย์
เมื่อครอบครัวสาวสุพรรณโวย โรงพยาบาลทำศพลูกหาย แต่ทางโรงพยาบาลออกมาโต้ เธอไม่ได้ท้องจริง
ศพหายหรือท้องทิพย์ สาวร่ำไห้ รพ.ทำศพลูกหาย สุดท้าย รพ.โต้ เธอไม่ได้ท้อง?เรามาย้อนไทม์ของเรื่องนี้กันชัดๆ แล้วมาดูกันว่าสรุปใครกันแน่ที่พูดไม่จริง
20 พ.ค.2564 เพจดัง จ.สุพรรณบุรี โพสต์วิดีโอไลฟ์สดของ เหตุการณ์ ขณะที่มีคนไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กซึ่งคาดว่าเป็นญาติของครอบครัวเด็ก โดยคนไลฟ์อ้างว่าหลานเสียชีวิต แต่ทางโรงพยาบาลได้ส่งร่างหลานบรรจุในโลงศพส่งมาให้ แล้วกำชับว่าไม่ให้เปิดกลัวติดเชื้อ ญาติเอะใจจึงเปิดโลง กลับไปพบศพของหลาน มีเพียงแค่เสื้อผ้า
ขณะเดียวกัน เดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ว่าศพลูกเธอหายไปไหน และเธอยืนกรานว่าเธอท้องและคลอดที่นี่จริงๆ ในขณะที่โรงพยาบาลโต้ เธอไม่ได้คลอดที่โรงพยาบาล แต่เธอมารักษาจริง ด้วยอาการอุ้งเชิงกรานอักเสบ
เทียบกันชัดๆ วันและเวลาของทั้ง 2 ฝั่ง
10 พ.ค.2564
ฝั่งแม่และพ่อเด็กเล่า
เธอมาตรวจครรภ์ ที่บางปลาม้า หมอบอกว่าน้องไม่ค่อยแข็งแรง น้องตัวเล็ก รพ.บางปลาม้าบอกจะฉีดยากระตุ้นก่อน และยาเร่งคลอด
ฝั่งโรงพยาบาลบางปลาม้าโต้
วันดังกล่าวเธอมาตรวจที่โรงพยาบาลจริง มีอาการปวดท้องข้างซ้าย ตรวจปัสสาวะพบว่ามีเม็ดเลือดขาวมีเชื้อโรค อุ้งเชิงกรานอักเสบ และตรวจปัสสาวะไม่พบการตั้งครรภ์ ได้ผลเป็นลบ สรุปได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์อย่างแน่นอน เลยให้เธอกลับบ้านไป
11 พ.ค.2564
ฝั่งแม่และพ่อเด็กเล่า
รพ.บางปลาม้า ตรวจปากมดลูกแต่มันไม่เปิด ก็ทำเรื่องผ่าส่งทางรพ.เจ้าพระยายมราช แต่ขณะกำลังจะส่งไป รพ.เจ้าพระยายมราช หัวเด็กโผล่มาครึ่งหนึ่ง จากที่ตอนแรกปากมดลูกไม่เปิด และต้องทำการคลอด เธอก็เบ่ง เขาก็ใช้เครื่องช่วยเอาน้องออกมา เด็กเป็นแฝด ชาย 1 คน หญิง 1 คน แล้วส่งเด็กทั้งคู่ไปรพ.เจ้าพระยายมราชทันที ตอนเอาเด็กส่งตัวไปรักษาต่อ พ่อเด็กก้เห็นว่ามีรถพยาบาลออกไปส่ง และทาง รพ.เจ้าพระยายมราชก็ส่งรูปลูกแฝดมาให้ดู
ฝั่งโรงพยาบาลบางปลาม้าโต้
เธอกลับมาอีก ด้วยอาการเดิม จึงแอดมิทที่ รพ.พยาบาล แต่ยืนยันผลตรวจครรภ์เป็นลบ
14 พ.ค.2564
ทางโรงพยาบาลบางปลาม้าเล่า
ส่งตัวสาวคนดังกล่าวกลับบ้าน หลังจากอาการดีขึ้น จาการรักษาอาการอุ้งเชิงกรานอักเสบ
แต่พ่อและแม่เด็กโต้
เธอนอนพักรักษาตัวที่ รพ.บางปลาม้า และพยาบาลที่ รพ.เจ้าพระยายมราช โทรมาบอกอาการลูกตลอดเวลา และลูกใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่ 1 คนคือแฝดผู้ชาย ส่วนแฝดสาวแข็งแรงดี
17 พ.ค.2564
ฝั่งแม่และพ่อเด็กเล่า
รพ.เจ้าพระยายมราชแจ้งว่า แฝดชายหัวผิดจังหวะ หยุดหายใจไป แต่ปั๊มหัวใจกลับมาได้ และช่วงเที่ยงกับบ่ายโทรมาอีกว่าน้องหยุดหายใจอีกนะ ก็ปั๊มกลับมาได้เหมือนเดิม
18 พ.ค.2564
ฝั่งแม่และพ่อเด็กเล่า
ตอนสามทุ่มโทรกลับมาว่าแฝดชายเสียเสียแล้ว ปั๊มกลับมาไม่ได้แล้ว แต่แฝดหญิงยังปกติ รพ.ยมราชบอก บอกน้องกินนมดี แข็งแรง ร้องเก่งอยู่เลย แต่ศพแฝดชายต้องทำการชันสูตรก่อน
20 พ.ค.2564
ฝั่งแม่และพ่อเด็กเล่า
รพ.ยมราชโทรมาให้ไปรับศพเด็ก วันนั้นเธอก็ขอดูลูกแฝดผู้หญิงของเธอ แต่เธออ้าง รพ.ไม่ให้ดู เธอจึงวานให้พยาบาลช่วยถ่ายรูปน้องมาให้หนูดู พยาบาลก็เอาโทรศัพท์เธอเข้าไปถ่ายรูป เธอยืนยันนี่คือลูกของเธอ
วันเดียวกันฝั่งแม่และพ่อเด็กเล่า
ญาติเตรียมงานศพที่วัด กะจะเผาวันนั้นเลย พยาบาลโทรมาแล้วมารับศพแฝดชาย ตอน 4 โมงที่รพ. ชั้น3 ของ รพ.ยมราช เพราะศพน้องอยู่ชั้น 3
แต่โรงพยาบาลยมราชออกมาโต้
ภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณชั้น 3 หน้าห้องกุมารเวช ช่วงเวลาบ่ายสองถึงหกโมงเย็น ไม่ปรากฏสาวในภาพ แต่มีรถจอดอยู่ที่ลานจอดรถจริง
เย็นวันเดียวกัน
เพจดัง จ.สุพรรณบุรี โพสต์วิดีโอไลฟ์สดของ เหตุการณ์ ขณะที่มีคนไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กซึ่งคาดว่าเป็นญาติของครอบครัวเด็ก โดยคนไลฟ์อ้างว่าหลานเสียชีวิต แต่ทางโรงพยาบาลได้ส่งร่างหลานบรรจุในโลงศพส่งมาให้ แล้วกำชับว่าไม่ให้เปิดกลัวติดเชื้อ ญาติเอะใจจึงเปิดโลง กลับไปพบศพของหลาน มีเพียงแค่เสื้อผ้า
ในขณะที่ความจริงด้านหลักฐาน ขัดกับคำบอกเล่าของเธอดังนี้
1.รูปที่เธอบอกว่าพยาบาลถ่ายมาให้ มันเป็นภาพที่อยู่ในกูเกิ้ล ในปี 2557
2.ภาพอัลตร้าซาวด์ที่เธอโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นภาพเดียวกับที่มีคนเอาไปลงในกูเกิ้ล
3.เธอบอกว่าเธอไปฝากครรภ์ที่ รพ.บางปลาม้า แต่ที่ รพ.กลับไม่มีประวัติของเธอในเวชเบียน
4.หลังรายการโหนกระแสพาเธอไปตรวจเพื่อพิสูจน์ตรวจช่องคลอดของเธอ หมอบอกว่า เห็นเลือด แต่อาจจะเป็นประจำเดือน ก็เป็นไปได้ ปากมดลูกปิด ไม่เหมือนกับเพิ่งคลอดมา มดลูกไม่โต ปกติยาว 7.5 ซม. แต่วัดได้ 7.2 ซม. ถือว่าปกติ จากการอัลตราซาวด์ โพรงมดลูกแฟบ ไม่มีเศษอะไรหลงเหลืออยู่ ไม่เหมือนการคลอดลูกมา
ทั้งหมดที่หมอพูด กับที่เธอพูด ไม่มีอะไรตรงกันสักอย่าง แต่เธอก็ยังยืนยัน ว่าเธอท้องจริงๆ มีน้ำนมจริงๆ คนรอบข้างรู้หมด
ไหงเป็นงี้ ตกลงเด็กไปไหน ใครเอาไป หรือเธอพูดไม่จริง ต้องรอติดตามกันต่อไป