เพิ่มเวลาลงทะเบียนเราชนะ กลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ เป็น 26 มีนาคม

เพิ่มเวลา! รองโฆษกรัฐบาล เผย ลงทะเบียน เราชนะ ให้ กลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ เป็น 26 มีนาคม

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล ได้ทวีตข้อความผ่าน ทวิตเตอร์ชื่อบัญชี @Rachadaspoke โดยระบุข้อความว่า

“ #กระทรวงการคลัง ขยายเวลาการลงทะเบียน #เราชนะ สำหรับประชาชนกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ได้แก่ ผู้พิการ คนป่วยติดเตียง และคนชรา จนถึง 26 มี.ค. ขอให้ติดต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือจนท.ปกครองท้องถิ่น เพื่อประสานงานกับหน่วยรับลงทะเบียนเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย ธกส. ออมสิน”

ด้าน น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับการเปิดรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะ สำหรับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีนโยบายให้มีการดูแลกลุ่มผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง รวมถึงคนชราที่มีปัญหาทางกายภาพ เนื่องจากยังมีประชาชนกลุ่มดังกล่าวบางส่วนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ กระทรวงการคลังจึงได้พิจารณาขยายระยะเวลาการปิดรับลงทะเบียนออกไปจากวันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นวันที่ 26 มีนาคม 2564โดยระหว่างวันที่ 6 – 7 มีนาคม 2564 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) จะปิดระบบลงทะเบียนเพื่อปรับปรุงระบบฐานข้อมูลและจะเปิดระบบรับลงทะเบียนอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 8 มีนาคม 2564

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ในท้องที่เพื่อดำเนินการประสานการจัดหน่วยรับลงทะเบียนเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทยฯ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และธนาคารออมสิน ดำเนินการรับลงทะเบียน นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมมือในการรับลงทะเบียนให้แก่กลุ่มดังกล่าวให้ครอบคลุมต่อไป

นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังได้แถลงเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าของโครงการฯณวันที่ 5 มีนาคม 2564 ดังนี้1) ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 13.7 ล้านคนได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมาจำนวน 34,137ล้านบาท 2)

ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่งและกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ .com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯแล้วมีจำนวนมากกว่า 16.5 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมาจำนวน43,442ล้านบาทและ 3)

ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯระหว่างวันที่ 15– 21 กุมภาพันธ์ 2564 และผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 0.5 ล้านคน

ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์โครงการฯ รวมทั้งสิ้นจำนวน 30.7 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 77,579 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯรวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯจำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.2 ล้านกิจการ