พัทยาเมืองที่มีแต่ความรุ่งเรืองและเฟื่องฟู ผู้คนหลายชีวิต มุ่งหน้าเข้ามากอบโกยสุข และหารายได้จากเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้ แต่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไป หลังวิกฤตโควิดมาย่ำกราย เมืองพัทยาที่มีคนไทยและชาวต่างชาติ แวะเวียนมาท่องเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย แต่วันนี้ภาพทุกอย่างที่เคยมี ต่างกันสิ้นเชิง
เมืองพัทยาแทบไม่มีคนเดิน โรงแรมและสถานบันเทิงหลายที่ทยอยปิด ทั้งชั่วคราวและถาวร หลังจากภาครัฐมีคำสั่งตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาด ขนาดเจ้าของธุรกิจใหญ่ๆยังต้องจำใจจบทางฝัน แล้วคนตัวเล็กๆ และอาชีพที่ต้องพึ่งพารายได้จากผู้คนและนักท่องเที่ยวจะ แทบไม่ต้องพูดถึง
เช่นเดียวกัน “พี่เมล์” อดีตนักตบสาวแกร่งในทีมสตรีเหล็ก ที่เธอยึดอาชีพช่างแต่งหน้าตามสถานบันเทิงต่างๆ ร่วมถึงเปิดร้านเสริมสวยเป็นของตัวเอง 15 ปีแล้ว ที่พี่เมได้กอบโกยรายได้มากมายจากที่นี่ แต่ตอนนี้เธอก็มีเสียงสะอื้นจากวิกฤตนี้ไม่น้อย หลังจากที่ร้านเสริมสวยของตัวเองก็ถูกสั่งปิด จ็อบแต่งหน้าจากสถานบันเทิงก็ไม่มีเพราะ งานแสดงโชว์ต้องหยุด นักแสดงโชว์หลายร้อยชีวิตต้องหอบชีวิตกลับบ้าน นั้นหมายความว่ารายได้ที่เคยมีเป็นศูนย์
พี่เมล์ระบายทุกข์กับจันว่า
“โควิดรอบที่แล้วยังพอมีเงินเก็บ เราออกมาใช้ได้ แต่พอโควิดรอบ2 เรารู้ว่ามันไม่ไหวแล้ว ต้องหาอะไรทำสักอย่าง เลยทาทางสู้โดยไปหาอาหารทะเลแห้ง จากชาวประมงรับมาขายเพื่อกินกำไร เพราะเราไม่มีทุนที่จะไปซื้อมาสต็อกไว้ ขายได้เราค่อยเราทุนไปคืนเขา”
จันถึงถามพี่เมล์ต่อว่า แล้วผลตอบรับเป็นยังไงบ้างคะ?
รอยยิ้มแห้งๆของเธอ คือตำตอบที่ชัดเจนที่สุด
“รายได้เหรอ บางวันก็ได้กำไร 2-3 ร้อยบาท แต่บางวันก็ไลฟ์นะ แต่ขายไม่ได้เลย เราก็เลยพยายามแต่งตัวดึงดูดลูกค้า บางทีก็แต่งตัวเป็นนางเงือก มานั่งชายหาด บางวันลงทุนพายเรือไปไลฟ์อยู่ในทะเล เพื่อดึงดูดคน เผื่อเขาจะมาซื้อของเรา”
แม้พี่เมล์จะยืนยันว่ายอดขายไม่เท่ากับงานแต่งหน้าที่เคยทำ แต่เขาก็ต้องทำ หาค่าเช่าห้อง ค่าข้าว เพราะถ้าไม่ทำก็ไม่รู้จะดำเนินชีวิตต่อไปยังไง
แม้ตอนนี้รัฐบาลจะผ่อนปรน อนุญาตให้สถานบันเทิงเปิดได้ตามปกติ แต่พี่เมล์ก็ยืนยันว่า ทุกอย่างก็ยังไม่เหมือนเดิม เพราะยังไงก็ไม่เหมือนเดิม และไม่รู้ว่ามันจะเป็นปกติสุขตอนไหน แต่ตอนนี้ใจยังสู้ไหวก็จะขอสู้ต่อไป
