แม่สาย เชียงราย พบ กล่องพัสดุ บรรจุกระสุน และระเบิด เตรียมส่งเมียนมา

แม่สาย เชียงราย พบ กล่องพัสดุ จำนวน 4 กล่อง ภายใน บรรจุกระสุน และระเบิด เตรียมส่งเมียนมา

พ.ต.อ.พิพัฒน์ นาระเดช ผกก.สภ.แม่สาย จังหวัดเชียงราย นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบร้านศักดิ์โมบายด์ เลขที่ 829/2 หมู่ 3 ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ภายหลังได้รับแจ้งเหตุ พบกล่องพัสดุ จำนวน 4 กล่อง ลักษณะหนักผิดปกติ จึงสงสัย อาจเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย

จากการตรวจสอบเบื้องต้น แต่ละกล่อง บรรจุลูกกระสุนปืนขนาด 5.56 ม.ม. สำหรับใช้กับปืน M16 จำนวนกว่า 4,000 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง โดยร้านศักดิ์โมบายด์ให้บริการรับส่งพัสดุ ซึ่งกล่องดังกล่าวขนส่งมาจาก จังหวัดชลบุรี และจะมีผู้มารับเพื่อนำไปส่งต่อยัง จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งทางร้านได้รับค่าบริการครั้งละ 80-150 บาท

นอกจากนี้ ยังมีกล่องพัสดุส่งไปที่ร้านศักดิ์โมบายด์ อีกจำนวน 2 กล่อง ระบุชื่อผู้ส่งและผู้รับเหมือนกัน เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบ พบมีกระสุนปืนลักษณะเดียวกัน อีกจำนวน 2,000 นัด รวมของเดิมเป็นลูกกระสุนปืนทั้งหมด 6,000 นัด และระเบิดขว้างสังหารบุคคล รุ่น K75 หรือลูกเกลี้ยง อยู่ในกล่องทรงกระบอกสำหรับบรรจุลูกระเบิด จำนวน 52 ลูก

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางกำลังรอผู้ที่จะไปรับพัสดุดังกล่าว ต่อมานายมโนกรณ์ สั่งสอน อายุ 30 ปีได้ขับรถยนต์ หมายเลขทะเบียน กฉ 2716 ลำพูน เข้ามาพร้อมแจ้งกับพนักงานว่าจะขอรับกล่องพัสดุ และได้ติดต่อให้รถขนสินค้าชายแดนนำกล่องพัสดุทั้งหมดไปส่งที่ จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา

เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าควบคุมตัว ก่อนขยายผลจับกุมตัวนายทรงศักดิ์ สิริชัยรุ่งเรือง อายุ 31 ปี คนขับรถตู้รับจ้างข้ามแดนไทย-เมียนมา เพิ่มเติม ผ่านทางสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ซึ่งกำลังรอรับกล่อง ได้อีก 1 ราย

ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ยังคงให้การปฏิเสธ ไม่ทราบว่ามีอาวุธสงคราม บรรจุอยู่ในกล่อง เป็นเพียงผู้รับผ่านทางโทรศัพท์ โดยระบุเพียงให้นำไปส่งคนขับรถตู้ เพื่อนำข้ามฝั่งไป

ขณะที่นายทรงศักดิ์ อ้างว่า เป็นเพียงคนขับรถตู้รับจ้าง หากผู้ใดว่าจ้างก็จะเข้าไปรับงานโดยไม่ทราบว่าเป็นสินค้าชนิดใดเช่นกัน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ จึงทำการควบคุมตัวทั้ง 2 คนไว้ พร้อมของกลาง โดยแจ้งข้อหาร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาติให้ได้ไว้ในครอบครอง โดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย เพื่อขยายผลผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป