จากกรณีที่ มีการรายงานว่า ด.ญ. อายุ 12 ปี ฉีดไฟเซอร์ เข็มแรก ต่อมาต้องเข้าห้อง ICU และใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังแพทย์ตรวจพบว่าเด็กมีลิ่มเลือดอุดตัน หัวใจอักเสบ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (2 พ.ย. 64) นางพรพรรณ อายุ 38 ปี แม่ของน้องมิ้น (นามสมมติ) อายุ 12 ปี เผยว่า ตอนนี้น้องยังอยู่โรงพยาบาล และมีหน่วยงานเข้ามาติดต่อช่วยเหลือเบื้องต้นแล้วตามขั้นตอน
แม่เล่าย้อนให้ฟังด้วยว่า ลูกได้รับ วัคซีนไฟเซอร์ เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 64 ซึ่งหลังจากฉีดวัคซีนผ่านไป 3 วัน ลูกมีอาการเจ็บหน้าอก และมีอาการไอ พอวันรุ่งขึ้น มีอาการนอนไม่สบายตัว หายใจแรงมาก พอเข้าวันที่ 6 ตนรู้สึกว่าอาการลูกไม่ค่อยดี จึงพาไปพบหมอที่คลินิก ก่อนจะทำเรื่องส่งตัวไปที่โรงพยาบาลราชบุรี
เมื่อไปถึงทางโรงพยาบาลได้แจ้งกับตนว่า อาการน้องเริ่มไม่ไหวแล้ว ถ้าอยู่ที่โรงพยาบาลราชบุรีต่อ จะทำได้แค่ประคองชีวิตไว้ จึงได้ส่งตัวลูกไปรักษาต่อที่กรุงเทพฯ ซึ่งทางโรงพยาบาลแจ้งว่า น้องหัวใจอักเสบถึง 2 ห้อง ตนจึงบอกกับหมอว่าน้องได้รับวัคซีนมา จากนั้นโรงพยาบาลก็นำเลือดของลูกไปตรวจ โดยผลจะต้องรออีก 6-7 วันจึงจะรู้ผล
ด้าน พ.ญ.ปาจรีย์ อารีย์รบ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี ได้เปิดเผยถึงกรณีของน้องมิ้นว่า ทราบเรื่องราวของน้องมิ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยทางหมอที่โรงพยาบาลราชบุรี ประเมินแล้วว่าเกินศักยภาพการรักษา จึงได้ส่งต่อไปสถาบันเด็กที่กรุงเทพฯ ซึ่งตอนนี้ทราบว่าอาการค่อนข้างหนัก ต้องใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งการดูแลรักษาต้องใช้ความชำนาญเฉพาะทางเยอะพอสมควร อาการตอนนี้ยังถือว่าวิกฤตและยังอยู่ในห้อง ICU
ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลเจ็ดเสมียน ที่น้องได้รับวัคซีนนั้น ได้แจ้งให้ญาติของเด็กมายื่นคำร้องเรื่องการขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีความเสียหายจากการได้รับวัคซีน
ซึ่งในสัปดาห์ที่แล้วทางโรงพยาบาลก็ได้ให้ทางครอบครัวของน้องมิ้นยื่นเรื่องไว้ก่อน แต่เนื่องจากการรักษาในน้องยังไม่สิ้นสุด จึงยังไม่ได้ยื่นไปที่สปสช.เขต5 ราชบุรี
ส่วนกรณีของน้องมิ้น จะสามารถช่วยเหลืออะไรได้บ้างนั้น ทางหน่วยงานก็ได้ให้รีบยื่นเรื่องเข้ามาพิจารณาเพราะน้องค่อนข้างที่จะอาการหนัก โดยจะประสานไปทางญาติในการขอเอกสารการรักษาเพื่อมาประกอบการพิจารณา
อย่างไรก็ตาม เคสน้องมิ้น ถือเป็นเพียงรายเดียวที่มีอาการรุนแรง นอกจากนั้นก็จะเป็นอาการที่เล็กน้อยจนถึงปานกลาง ส่วนใหญ่เป็นไข้และปวดแขนค่อนข้างเยอะ เรียกได้ว่าเป็นอาการทั่วไป
แต่สำหรับอาการที่รุนแรงก็มีแค่รายเดียวที่รับทราบ ซึ่งช่วงนี้ก็อยู่ในช่วงของการเฝ้าระวัง ภายหลังจากการฉีดวัคซีน 30 วัน เราก็ต้องสังเกตอาการต่อไม่ว่าจะเป็นวัคซีนตัวใด