แรงงานต่างด้าว ลอบเข้าไทย วันเดียว 189 ราย!

ตำรวจตระเวนชายแดน จับแรงงานต่างด้าว ชาวเมียนมาร์ ลอบเข้าไทย ผ่านนายหน้าคนไทย กินค่าหัว 20,000 บาท

แรงงานต่างด้าวยังทะลักเข้าไทยอยู่เรื่อย ๆ โดยมีคนไทยเองที่เป็นนายหน้าพาเข้ามา

เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา ทหารร่วมฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค จับกุมแรงงานชาวเมียนมาร์ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย จำนวน 189 คน โดยแบ่ง 2 ชุด จับกุมได้ที่จังหวัดกาญจนบุรี ทั้งหมด

แรงงานต่างชาติลักลอบเข้าไทย ชุดที่ 1

ตำรวจสถานีตำรวจภูธรไทรโยคและ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค ร่วมกับทหารชุดเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ สนธิกำลังกับ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 136 เข้าจับกุมขบวนการลักลอบนำแรงงานชาวเมียนมาร์ เข้ามาในประเทศโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี

โดยมีสองหนุ่มแสบชาวไทย พื้นที่ไทรโยค นำรถตู้ติดตราสัญลักษณ์กู้ภัยมาใช้ขนแรงงานต่างด้าว ทราบชื่อ นายหรรษา อายุ 27 ปี และนายสุพล อายุ 28 ปี ขับรถตู้โตโยต้า สีเทา สัญลักษณ์มูลนิธิกู้ภัยกาญจนบุรี เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ขับมาตามถนนสายบ้านกระทะทอง-พุน้อย หมู่ 7 ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่เรียกรถตู้คันดังกล่าวให้หยุดเพื่อตรวจสอบ ปรากฏว่า นายหรรษา ซึ่งเป็นคนขับ มีพิรุธ! พยายามกลับรถหวังหลบหนีแต่เจ้ากรรม! ดวงไม่เข้าคนทำผิด รถเกิดติดหล่มข้างทาง จึงไม่สามารถหลบหนีเจ้าหน้าที่ได้สำเร็จ

เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในรถตู้ พบแรงงานชาวเมียนมาร์ จำนวน 14 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 4 คน ทั้งหมด ลักลอบเดินทางจากประเทศเมียนมาร์เพื่อจะเข้ามาทำงานในจังหวัดนครปฐมและกรุงเทพฯ โดยเสียค่านายหน้าคนละ 15,000 บาท

เบื้องต้น นายหรรษา และ นายสุพล สารภาพ รับค่าจ้างขนแรงงานครั้งละ 15,000 บาท โดยจะขับรถไปรับแรงงานชาวเมียนมาร์กลุ่มนี้ จากหน้าสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในอำเภอไทรโยค เพื่อนำไปส่งให้กับผู้ว่าจ้าง ชื่อนายเจมส์ ที่จะมารอรับบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี

ภายในวันเดียวกัน เจ้าหน้าพบแรงงานต่างชาติลักลอบเข้าไทย อีกชุดเป็นการทำงานของ ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค ร่วมกันจับกุมแรงงานชาวเมียนมาร์ชุดนี้ได้บริเวณช่องทางธรรมชาติพุชะนี ชายป่าเชิงเขาตะนาวศรี หมู่ 4 ตำบลศรีมงคล อำเภอไทรโยค จำนวน 175 คน เป็นชาย 95 คน หญิง 80 คน

เจ้าหน้าที่สอบถามชาวเมียนมาร์ ที่ลักลอบเข้ามา ได้ข้อมูลว่า แรงงานกลุ่มนี้ เดินทางมาจากจังหวัดทวาย จังหวัดเมาะลำไย จังหวัดเนปิดอ และ จังหวัดพะโค ประเทศเมียนมาร์

โดยใช้วิธีเดินเท้าผ่านมาตามเส้นทางธรรมชาติและมาหยุดรออยู่ที่ป่าเชิงเขาตะนาวศรี เพื่อรอนายหน้ามารับไปส่งให้กับนายจ้างในพื้นที่จังหวัดนครปฐม สมุทรสาครและกรุงเทพฯ ซึ่งพวกเขาต้องเสียค่านายหน้ารายละ 20,000 บาท

แต่เนื่องจากการจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่ตรวจพบนายหน้าที่ชาวเมียนมาร์อ้างว่าเป็นคนไทย จึงทำการผลักดันแรงงานชาวเมียนมาร์กลุ่มนี้กลับประเทศไป พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตามเส้นทางธรรมชาติ ที่คาดว่าแรงงานชาวเมียนมาร์จะลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศได้อีก

อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดในปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้มีคนไทยรับเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้า พลัส และจากรายงานทั่วโลกปัจจุบัน พบว่า สายพันธุ์นี้ระบาดมากสุดในประเทศกัมพูชา เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

หลังจากเจ้าหน้าที่ได้จับกุมแรงงานต่างด้าว ที่ลักลอบเข้าเมืองนี้ได้ทั้งหมดแล้ว จึงให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อำเภอไทรโยค ตรวจวัดอุณหภูมิ ไม่พบว่ามีแรงงานต่างด้าวรายใดมีอุณหภูมิสูงเกิน 37.5 องศา

แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ จะกล่าวถึงการลักลอบเข้าไทยของชาวเมียนมาร์อย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะต้นเหตุของการลักลอบเข้ามานั้น นายหน้า คือคนไทย นายจ้าง ก็คือคนไทยสิ่งนี้ คือ เรื่องที่ควรตระหนักไว้นะคะ

คลิปอีจันแนะนำ
สาวโพสต์เตือน ระวังมิจฉาชีพ หลอกให้โอนเงิน แถมอ้างตัวเป็นตำรวจยศใหญ่