โควิด สายพันธุ์ใหม่ BA.5 แพร่เชื้อได้สูงกว่า สายพันธุ์ อื่นถึง 4 เท่า

โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ BA.5 แพร่เชื้อได้สูงกว่า ต้านทาน วัคซีน ได้มากกว่า สายพันธุ์ อื่นถึง 4 เท่า

จากผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ (Nature) ระบุว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 (BA.5) ซึ่งปัจจุบันเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐฯ สามารถต้านทานวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มากกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ได้มากถึง 4 เท่า

ซึ่งผลการศึกษาพบว่าสายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 สามารถต้านทานวัคซีนชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ (mRNA) ได้มากกว่าสายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อยก่อนหน้าอื่นๆ ถึง 4 เท่า ซึ่งรวมถึงวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นา อีกทั้งคลินิกมาโย (Mayo Clinic) ของสหรัฐฯ ระบุในรายงานว่าสายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 “แพร่เชื้อได้สูงมาก” และมีส่วนทำให้จำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลและในแผนกผู้ป่วยหนักเพิ่มขึ้นข้อมูลล่าสุดจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ชี้ว่าสายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 ครองสัดส่วนร้อยละ 65 ของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในประเทศ เมื่อช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 9 ก.ค.

ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ เมื่อ12 ก.ค. ระบุว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อยบีเอ.4 (BA.4) และสายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 (BA.5) ครองสัดส่วนกว่าร้อยละ 80 ของการติดเชื้อในประเทศ ณ ปัจจุบันคณะผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระบุว่าเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์ย่อยบีเอ.4 และสายพันธุ์ย่อยบีเอ.5 แพร่เชื้อได้มากกว่าเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อยอื่นๆ ก่อนหน้านี้ และคาดว่าสามารถหลบหลีกเกราะป้องกันจากวัคซีนและภูมิคุ้มกันจากการติดเชื้อก่อนหน้าได้ง่ายยิ่งขึ้น

ด้านดร. เกรกอรี โปแลนด์ หัวหน้ากลุ่มวิจัยวัคซีนของคลินิกฯ กล่าวว่าผู้ที่ยังไม่ได้เข้ารับวัคซีนมีโอกาสติดเชื้อไวรัสฯ มากกว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนและวัคซีนโดสกระตุ้นราว 5 เท่า ขณะที่โอกาสเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลสูงขึ้น 7.5 เท่า และโอกาสเสียชีวิตสูงขึ้น 14-15 เท่า

คลิปแนะนำอีจัน
ใบปริญญานี้…หนูให้พ่อนะ