ใครถูกแอบอ้างชื่อ สร้างโซเชียลปลอม ดีอีเอส แนะทำตาม 3 ข้อนี้

ดีอีเอส แนะ 3 ช่องทาง ช่วยเหลือ ปชช. ถูกแอบอ้างชื่อไปสร้างโซเชียลปลอม

17 ก.ค. 65 มีรายงานว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) ได้แนะนำประชาชน-คนดัง หลังพบถูกแอบอ้างชื่อ รูปภาพไปสร้างบัญชีโซเชียลปลอม

โดย น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า ที่ผ่านมายังพบแนวโน้มปัญหามิจฉาชีพแอบอ้างนำชื่อและรูปภาพคนอื่น ไปสร้างบัญชีโซเชียลปลอมทั้ง เฟซบุ๊ก เพจปลอม ไลน์ปลอม รวมถึง IG เพื่อนำไปหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน สูญเสียทรัพย์สินเงินทอง เสียชื่อเสียง โดยเฉพาะยิ่งถ้าผู้ที่ถูกแอบอ้างชื่อและโปรไฟล์เป็นดารา หรือคนมีชื่อเสียง ความเสียหายก็จะยิ่งขยายวงกว้าง

สำหรับรูปแบบการหลอกลวงที่พบบ่อยจากบัญชีโซเชียลสวมรอยเหล่านี้ ได้แก่ หลอกยืมเงิน หลอกขายของ หลอกลงทุน หลอกร่วมทุน โดยเหยื่อที่หลงเชื่อจะสูญเงินโดยไม่ได้รับสินค้าหรือผลตอบแทนใดๆ

นอกจากนี้ ยังมีการหลอกลวงที่เป็น Romance Scam หรือหลอกให้หลงรัก และสูบเงินเหยื่อผ่านทางออนไลน์

ขณะที่บางกรณีจะเป็นการแอบอ้างตัวตนคนดัง สร้างเฟซบุ๊กปลอมเพื่อใช้เป็นพื้นที่โพสต์เนื้อหา หรือแสดงความคิดเห็นเพื่อหมิ่นประมาทผู้อื่น เป็นต้น

น.ส.นพวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหานี้ รวมถึงอำนวยความสะดวกให้ผู้เสียหายซึ่งถูกแอบอ้างชื่อไปสร้างบัญชีโซเชียลปลอม เข้าถึงช่องทางความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว เพื่อเร่งยุติการขยายวงของความเสียหาย รวมถึงเร่งประสานงานเพื่อปิดบัญชีปลอม และติดตามมิจฉาชีพมาดำเนินคดี

สำหรับผู้ที่ถูกแอบอ้างสามารถดำเนินการผ่าน 3 ช่องทาง ดังต่อไปนี้

1.แจ้งรายงานไปที่แพลตฟอร์มโซเชียล โดยการ report ไปยังเว็บไซต์ผู้ให้บริการ Social Network ที่ถูกแอบอ้าง ซึ่งทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ และ IG มีเมนูให้รายงานบัญชีปลอมโดยตรงอยู่แล้ว จากนั้นรอขั้นตอนการตรวจสอบของทางแพลตฟอร์ม

2.ช่องทางของกระทรวงดิจิทัลฯ ที่สายด่วน 1212 OCC ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ ของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) ในสังกัดดีอีเอส + ช่องทางอื่นๆ ภายใต้การดูแลของกระทรวงฯ

3.แจ้งตำรวจ ทั้งการไปแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่ หรือกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) โดยให้รวบรวมหลักฐานไว้ เช่น ถ่ายจับภาพหน้าจอสนทนา หรือหน้ารูปโปรไฟล์ที่ถูกปลอมขึ้นมา

นอกจากนี้ ยังสามารถแจ้งความออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านเว็บไซต์ https://thaipoliceonline.com ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยต้องลงทะเบียนจะต้องกรอกข้อมูลบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตนด้วย ก่อนกรอกข้อมูลอื่นๆ ตามขั้นตอน ที่สำคัญคือข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับคดี ทั้งข้อมูลส่วนตัวของผู้แจ้งและข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องหาเท่าที่ทราบ ได้แก่ ชื่อ นามแฝง เลขบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัญชีธนาคารที่ใช้ในการทำธุรกรรม ช่องทางติดต่ออื่นๆ เช่น Line, Facebook, Instagram, Twitter เป็นต้น รวมถึงรูปแบบคำโฆษณาของมิจฉาชีพ เพื่อใช้ในการเชื่อมโยงข้อมูลคดีอื่นๆ ที่เคยแจ้งมาก่อน และจะเป็นประโยชน์ต่อการสืบหาคนร้ายที่ทำในรูปแบบขบวนการ